1. นี่มันเว็บอะไรกัน??? ทำความรู้จักคร่าวๆกับ รีวิวบุรี คลิกเลย

Mr.001

ผู้ว่าฯรีวิวบุรี

ผู้ดูแลเมือง
Mr.001 เคลื่อนไหวล่าสุด:
2 พฤศจิกา 2020
  • รีวิวPrometheus : ชอบที่สุดคือ พล็อตเรื่อง

    ให้คะแนน:
    4/5,
    (แนะนำ)
    แม้ว่าหนัง Alien กับ Predator ที่ถูกสร้างก่อนหน้านี้จะมีการนำมาเชื่อมโยงกันใน Alien vs Predator แต่ก็ให้ความรู้สึกคล้ายๆ หนัง Marvel ที่เอาซุปเปอร์ฮีโร่มาเจอกัน บางครั้งรู้สึกว่ามันเลอะเทอะด้วยซ้ำ แต่ Prometheus คือส่วนที่เข้ามาพลิกภาพรวมทั้งหมดจากความเลอะเทอะ เป็นอะไรที่ลึกลับ ซับซ้อน และน่าค้นหา

    พล็อตของเรื่องนี้มันน่าขนลุกครับ คือทำให้รู้สึกว่า มนุษย์นั้นช่างน้อยนิด ทว่าจักรวาลช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน อะไรที่เรายังมองไม่เห็น ไม่ใช่เพราะมันเล็กและซ่อนอยู่ในซอกเหลือบ แต่เพราะมันยิ่งใหญ่จนกินกว่าที่สายตาคู่เล็กๆของเราจะมองเห็นต่างหาก

    รีวิวAliens ฝูงมฤตยูนอกโลก : หนัง 30 ปียังแจ๋ว

    ให้คะแนน:
    4/5,
    (แนะนำ)
    ตั้งแต่ ผมโตพอที่จะรู้จักดูหนัง ภาค 2 นี่ก็เป็น Alien ภาคแรกที่ผมได้ดูครับ (จากทางทีวี) แล้วผมก็ดันเข้าใจมาตลอดว่าภาคนี้คือภาคแรก พอดีช่วงนี้มี Alien ภาคใหม่ออกมา เลยต้องไปหาภาคเก่าๆ มาดูเพื่อลำดับเหตุการณ์ ถึงได้รู้ว่านี่มันภาค 2 นิหว่า อย่างไรก็ตาม หลังย้อนดูจนครบทั้ง 4 ภาคแล้ว ผมก็ได้ค้นพบว่า ภาค 2 นี้มีความพิเศษของมันอยู่ จนดูโดดเด่น แปลกแยกจากภาคอื่นๆ นั่นคือเป็นภาคที่มันส์มากๆ คุณภาพงานสร้างนั้นแตกต่างจากภาคอื่นโดยสิ้นเชิง และสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น น่าจะเป็นเพราะเป็นภาคเดียวที่กำกับโดย เจมส์ คาเมรอน

    ก่อนที่จะเปิดดูย้อนหลัง ผมก็ทำใจไว้ก่อน คือ หนัง Sci-Fi ที่สร้างเมือ 30 กว่าปีที่แล้ว (ออกฉายปี 1986) จะเอาอะไรมากมาย แต่ผิดคาดครับ ยังมันส์ ยังสนุกได้อีก การถ่ายภาพ แสงเงา แจ่ม ยานพาหนะ ยุทโธปกรณ์ต่างๆ ยังดูล้ำอยู่ จะมีแค่ทรงผมของนางเอก กับ ระบบ user interface ของคอมพิวเตอร์เท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าเป็นหนังยุคเก่า ถึงตอนนี้รู้สึกเลยว่า ฝีมือของผู้กำกับมีผลแค่ไหนต่อคุณภาพของหนัง เอาจริงๆผมว่าสนุกว่าหนังฟอร์มยักษ์บางเรื่องที่เพิ่งออกฉายไม่กี่ปีมานี้ด้วยซ้ำ

    มีจุดที่ดูแล้วรู้สึกจะขัดสายตาอยู่ คือ บทของน้องเด็กผู้หญิงในเรื่อง รู้สึกบุคคลิกจะเปลี่ยนเร็วไปหน่อย ไม่ค่อยสมจริง

    ถ้าใครคิดจะดูย้อนหลัง นอกจาก ภาค 2 ที่ดูสนุกที่สุดแล้ว ผมก็แนะนำดูแค่ ภาค 1 อีกภาค เพราะเป็นภาคที่เขียนและกำกับโดย Ridley Scott ดังนั้นเนื้อเรื่องจะมีการเชื่อมโยงกับเรื่องอื่นๆของผู้กำกับคนนี้ เช่น Prometheus และ Alien ภาคล่าสุด (หลายท่านอาจยังไม่ทราบว่า Alien, Prometheus และ Predator ล้วนสร้างขึ้นจากจินตนาการของ Ridley Scott และเนื้อเรื่องมีการเชื่อมโยงกัน ใครที่สนใจ หาอ่านภาพรวมทั้งหมดได้ในกระทู้ของคุณหลวงจีนหอไตรในพันทิปได้ครับ เขียนไว้ค่อนข้างละเอียด

    ส่วนภาค 3,4 ผมว่างั้นๆ ไม่ดูก็ไม่เป็นไร เนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับเรื่องอื่นๆของ Ridley Scott

    รีวิวTitanic : เพลงเพราะ ลุ้นตอนท้าย

    ให้คะแนน:
    4/5,
    (แนะนำ)
    ตอนที่หนังเรื่องนี้เข้าโรง ตอนนั้นปังมากๆ ได้ยินว่ามีบางคนเข้าไปดูในโรงถึง 20 กว่ารอบ (หรือมากกว่า จำไม่ค่อยได้) ผมก็แอบหมั่นไส้เล็กๆ เพราะโดยรวมแล้วผมรู้สึกเบื่อๆตอนช่วงต้นเรื่อง แล้วมาตื่นเต้นเอาตอนท้ายๆที่เรือกำลังจะจม ซึ่งก็ทำได้สมจริง พาคนดูเข้าสู่อารมณ์ตอนเรือแตกได้ดีทีเดียว ที่ประทับใจทีสุดคงจะเป็นเพลง My Heart Will Go On มันตรึงเข้าไปในใจเลย ผมคิดว่าความปังของเรื่องนี้ 80% มาจากเพลงนี่แหละ

    การสร้างสรรค์เรื่องราวโรแมนติกขึ้นมาโลดแล่นบนเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้น ก็เป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมครับ คนดูได้ทั้งความบันเทิง และรายละเอียดข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ไปพร้อมๆกัน ซึ่งผู้สร้างทำการบ้านมาดีมาก ลำดับเหตุการณ์อย่างละเอียด เวลาอะไรเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงชน ชนแล้วเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเหลือรอดมาน้อย จำลองสถานการณ์มาให้ดูอย่างได้อารมณ์มาก ทุกอนูของรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ถูกใส่เข้าไปหนังอย่างละเมียดละไม เรียกได้ว่า ดูหนัง แต่ได้ความรู้เหมือนดูสารคดี

    การถ่ายภาพก็งดงาม ใช้สีอุ่นๆ ล้อกับโทนเรื่องที่โรแมนติกแบบพอดีเป๊ะ

    ภายหลังผมมีโอกาสได้ดูซ้ำ ก็รู้สึกว่าช่วงต้นเรื่อง ก็ไม่ได้น่าเบื่อขนาดนั้นนะ ก็ถือว่า ok อยู่ แต่ก็ยังไม่อินกับความรู้สึกของคู่พระนางอยู่ดี คือรู้สึกว่าก็แค่อารมณ์ประสาวัยรุ่นอ่ะ ผมยังแอบคิด ถ้าเรือไม่ล่ม สองคนขึ้นฝั่งแล้วหนีไปด้วยกัน 2-3 อาทิตย์ก็คงใส่ converse ทางใครทางมันกันแล้ว :ahaah:

    สรุปก็คือแนะนำให้ดู แค่เพลงอย่างเดียว ก็เป็นอะไรที่ห้ามพลาดแล้วครับ

    รีวิวหุบเขานรก โนโบริเบทซึ (Jigokudani Noboribetsu) : ถ้ามีเวลาก็แวะหน่อย

    ให้คะแนน:
    4/5,
    (แนะนำ)
    หลังจาก 2 วันแรกของทริป ที่พวกเราเที่ยว 2 เมืองยอดนิยมอย่างซัปโปโรกับโอตารุ ท่ามกลางฟ้าหม่นๆ วันนี้ได้มาเห็นหุบเขานรกในวันฟ้าใส ยอมรับว่ารู้สึกดีขึ้นเยอะเลย แน่นอนครับ ถ้าเทียบกับจุดที่พวกเราประทับใจมากที่สุดในฮอกไกโด ที่นี่ก็ยังถือว่าไม่ได้มีอะไรมากนัก แต่ก็คุ้มค่าต่อการแวะถ้ามีเวลานะครับ อย่างน้อยก็รู้สึกว่าสวยกว่าที่เห็นในรูป แต่ถ้าพลาดก็ไม่ต้องเสียดายมากครับยังไม่ใช่จุดที่จะร้อง "ว้าว!"


    DSC07492.jpg

    ตอนที่เดินมาจนเกือบถึงทางเข้า จะมีจุดทางเข้าเล็กๆใกล้ๆกับที่จอดรถ ตรงนี้จะยังไม่ใช่ทางเข้าหลักนะครับ บันไดตรงนี้ชัน หิมะบนบันไดก็โดนเหยียบจนเป็นน้ำแข็งลื่นๆ อันตรายมาก ไม่เหมาะกับเด็กและผู้สูงอายุอย่างยิ่ง ให้เดินตามถนนไปจนเลยที่จอดรถไป จะเจอป้ายสถานที่ตัวใหญ่ๆ ตรงนี้จะเเป็นทางเข้าหลักครับ



    อ่านต่อ...

    รีวิวGuardians of the Galaxy (2014) รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล : ไม่อยากเชื่อ สนุกหว่า

    ให้คะแนน:
    5/5,
    (สุดยอด)
    ฟินมากเลยครับ ผมพลาดไปจริงๆ เพราะภาพลักษณ์ของเรื่องนี้ในหัวผมก่อนดู จะเป็นหนังประเภทบ้าๆบอๆ เหมาะกับให้เด็กประถมดู แล้วก็เข้าใจว่าเป็นหนังยอดมนุษย์ด้วย โชคดีที่ตามรอยรีวิวไปหามาดูจึงได้รู้ว่าเข้าใจผิดหมดเลย 1. มันไม่ใช่หนังยอดมนุษย์ เป็นหนังสงครามอวกาศ + ขำๆ 2.มันเป็นหนังที่สนุกมาก (แม้จะสำหรับผู้ใหญ่ก็เถอะ)

    สิ่งที่ผมมองหาใน The Force Awakens ไม่เจอ แต่ได้มาเจอในเรื่องนี้ คือ "ความคิดสร้างสรรค์" ไม่ว่าจะเป็นเมือง ยานพาหนะ อาวุธ ยุทธวิธี รูปแบบของเอเลี่ยน มันทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจ ฉากต่อสู้ ฉากล้างผลาญ ตื่นเต้น สนุกใช้ได้เลย

    จริงๆแล้วหนังแนวนี้ ผมชอบให้เป็นแนวจริงจัง แนวตำนาน แบบ Star Wars มากกว่าที่จะเป็นแนวขำๆ แบบเรื่องนี้ แต่ก็ต้องเข้าใจครับว่าต้องทำอะไรให้แตกต่างจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว แล้วมุขเค้าก็ขำจริงๆ

    ภาค 2 ออกมา ไปดูแน่นอน

    รีวิวโอตารุ : ไม่ค่อยมีไร

    ให้คะแนน:
    3/5,
    (ธรรมดา เฉยๆ)
    ใครๆไปฮอกไกโดก็ต้องไปโอตารุ มันก็เลยทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะต้องเพิ่มเมืองนี้ใส่เข้าไปในแผนด้วย ทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามีอะไรให้เที่ยวนอกจากจุดถ่ายรูปหมาชนบริเวณคลอง พอได้ไปแล้วก็พบว่ามันก็มีแค่นั้นจริงๆครับ พวกเราไปช่วงที่มีเทศกาล มันก็เลยดูโรแมนติกกว่าปกติหน่อย แต่มันก็จบแค่นั้น
    DSC07474.jpg DSC07476.jpg
    ตรงจุดถ่ายรูปมหาชนนี่ มหาชนจริงๆ คือคนเยอะกว่าจะได้มุมเหมาะๆนี่เหนื่อย ส่วนใครที่จะไปถ่ายที่เค้าจุดเทียนกลางคืนช่วงเทศกาลแบบนี้ ถ้ามีขาตั้งกล้องไปด้วยจะช่วยได้เยอะครับ

    ถ้าเมืองริมคลองแบบนี้ผม อดเทียบกับแถวเมืองซูโจวประเทศจีนไม่ได้ มีอะไรให้เที่ยวมากกว่านี้เยอะ ตอนเย็นๆเปิดไฟแล้วก็โรแมนติกไม่แพ้ แถมมีเรือแจวให้ล่องไปตามคลองด้วย

    สำหรับถนน Sakaimachi ที่มีร้านค้าต่างๆ ที่ใครมาก็ต้องมาเดินเส้นนี้ ไม่รู้ซิ สำหรับพวกเราไม่ใช่ขาช้อป เห็นบางคนเค้ามากินซูชิบ้าง มากินเค้ก LeTao บ้าง แต่พวกเราก็ไม่ใช่ประเภทที่ชอบเที่ยวสไตล์นั้น เครื่องแก้ว กล่องดนตรีก็ไม่ใช่อะไรที่ดึงดูดเท่าไหร่สำหรับพวกเรา ส่วนร้านอาหารประเภทกินอิ่มได้ เห็นมีแต่พวกร้านอาหารทะเล ปูทาระบะแพงๆอะไรพวกนั้น ประมาณว่าตั้งขึ้นมาดักนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะเลย (ไม่ได้ไปดูราคา แต่เดาว่าน่าจะแพงกว่าที่ตลาดโจไก ขนาดที่นั่นเป็นตลาดค้าส่ง เรายังรู้สึกแพงเลย ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังเดาว่าต้องแพงกว่าแน่นอน) ไม่เจอร้านราเมนซักกะร้านเลย

    ต่อให้ใครที่ชอบเที่ยวสไตล์นี้ ก็ยังแนะนำว่าเผื่อครึ่งวันพอครับ เพราะเมืองมันค่อนข้างเล็กครับ

    รีวิวI am Legend | ไอ แอม ลีเจ้นด์ ข้าคือตำนานพิฆาตมหากาฬ : หนังซอมบี้ในดวงใจ

    ให้คะแนน:
    5/5,
    (สุดยอด)
    ถ้านับเฉพาะหนังซอมบี้ที่เป็นหนังโรงแล้ว ผมชอบเรื่องนี้ที่สุด อาจเป็นเพราะพล็อตเรื่องที่มีเอกลักษณ์ คนหนึ่งคนกับหมาหนึ่งตัวในมหานครร้าง ท่ามกลางเหล่าซอมบี้ และวิถีชีวิตที่แปลกประหลาด มันสะท้อนความสร้างสรรค์ของผู้เขียนบทอย่างชัดเจนมาก การดำเนินเรื่องก็เป็นไปอย่างน่าติดตาม ฉากดราม่าสะเทือนใจก็เป็นอีกทีเด็ดของหนังเรื่องนี้ ที่ทำให้จนบัดนี้มันยังตรึงอยู่ในใจผม มันช่างฉีกตัวออกจากหนังซอมบี้อื่นๆได้อย่างโดดเด่นจริงๆ

    รีวิวเทศกาลหิมะ ซัปโปโร Sapporo Snow Festival : เทศกาลหิมะ หรือ เทศกาลอาหาร??

    ให้คะแนน:
    3/5,
    (ธรรมดา เฉยๆ)
    ทริปเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาวของพวกเรารอบนี้ มันพอดีเรียงลำดับแบบเจออะไรที่ไม่ค่อยประทับใจก่อนในช่วงต้น และค่อยๆเจออะไรที่ฟินมากขึ้นเรื่อยๆ และเทศกาลหิมะนี้ก็จัดอยู่ในส่วนต้นๆ ของทริปครับ

    DSC07366.jpg

    ขอแบ่งเป็นประเด็นต่างๆดังนี้

    1. สถานที่ และรูปแบบการจัดงาน กรอบสี่เหลี่ยมที่แสนน่าเบื่อ งานส่วนที่เป็นงานปั้นหิมะจะจัดที่บริเวณ สวนโอโดริ สวนสาธารณะขนาดเล็กกลางเมืองซัปโปโร สวนนี้จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แคบ และยาว โดยมีถนนตัดผ่านสวนหลายเส้นมาก เลยทำให้สวนถูกแบ่งเป็นบล็อกสี่เหลี่ยมเล็กๆ หลายๆบล็อก ความต่อเนื่องในการเดินชมงานก็จะถูกขัดจังหวะด้วยไฟแดงเป็นช่วงๆ ในแต่ละบล็อก จะมีปฏิมากรรมขนาดใหญ่เพียงชิ้นเดียว แล้วก็มีเวทีอยู่ด้านหน้าปฏิมากรรม มีการแสดง ร้องรำทำเพลงก็พว่าไป (บางคนก็ร้องเพลงเพราะดีเหมือนกัน)



    อ่านต่อ...

    รีวิวซัปโปโร : ไม่ค่อยมีไร

    ให้คะแนน:
    3/5,
    (ธรรมดา เฉยๆ)
    ความจริงตอนที่ดูรีวิว หรือรายการทีวีที่พาไปเที่ยวเมืองนี้ ผมก็รู้สึกเฉยๆกับสถานที่แต่ละแห่งที่เค้าพาไปแล้ว แต่ก็เห็นหลายคนไปแล้วแฮปปี้เหลือเกิน ในใจก็แอบหวังว่าหิมะขาวๆที่ปกคลุมทั้งเมือง จะทำให้ดูตื่นตาตื่นใจขึ้นบ้าง ประกอบกับไปเที่ยวช่วงเทศกาลหิมะด้วย ก็น่าจะทำให้คุ้มค่ากับเวลาซักวันสองวัน

    แต่..... ผมคิดผิด ถ้าใครที่เป็นคนหลงใหลในความยิ่งใหญ่อลังการของธรรมชาติแบบผม ขอบอกเลยว่าอย่าคาดหวังอะไรกับที่นี่มากนัก เอาไว้ซื้อของฝากก่อนกลับก็พอ คือไม่ค่อยมีไรเลยจริงๆ แม้แต่เทศกาลหิมะที่แสนโด่งดังก็รู้สึกเฉยๆ มีที่รู้สึกดีหน่อยคือ ขึ้น JR Tower ไปชมวิวทั้งเมืองแบบเต็มๆ พร้อมขุนเขาเป็นฉากหลัง

    DSC07197.jpg

    เคยได้ยินคนชมว่าซัปโปโรมีการวางผังเมืองที่ดีมาก ถนนวิ่งตรงตีเป็นตารางหมากรุก ซึ่งก็เป็นอย่างงั้นจริงๆ แต่ผมว่ามันน่าเบื่อ คือเดินเมืองนี้ต้องข้ามถนนบ่อยมาก เพราะวางแนวถนนถี่ๆ ขนาดเดินในสวน odori เดินแป๊บๆก็เจอไฟแดง เดินแล้วแอบเซ็งครับ แล้วก็ไม่ค่อยมีวัด ไม่มีศาลเจ้า ที่สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นเลย สวนก็ไม่ค่อยสวย บ้านเรือนก็มีแต่ตึก เรียกว่าตรงกันข้ามกับเมืองเกียวโต เมืองสุดแสนเสน่หา เมืองโปรดของผมแทบทุกอย่างเลย

    รีวิวThe Revenant : ต้องรอด

    ให้คะแนน:
    4/5,
    (แนะนำ)
    เป็นหนังแนว Survival ครับ ชื่อภาษาไทย "ต้องรอด" ผมว่าตั้งได้เหมาะเจาะตามแนวของหนังจริงๆ สิ่งที่ผมไม่ชอบสำหรับหนังแนวนี้คือ พล็อกเรื่องที่เรียบง่าย ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นอย่างงั้นจริงๆ แต่ถ้าเทียบกับเรื่องอื่นๆในแนวเดียวกันอย่าง Cast Away, The Shallow, 127 hours เรื่องนี้มีบทเยอะกว่าพอควรเลยแหละ เพราะมีประเด็นเรื่องการแก้แค้นคนชั่วเข้ามาร่วมด้วย

    ในทางกลับกัน สิ่งที่ผมชอบในหนังแนวนี้คือ การได้คอยเอาใจช่วยตัวเอกให้เอาตัวรอดจากอุปสรรคให้ได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำได้ดีเช่นกัน ลุ้นตลอด ไม่มีเบื่อเลย

    ดูเผินๆอาจเป็นหนังที่ไม่ต้องใช้เทคนิคถ่ายทำมาก แต่จริงๆแล้วผมว่าเทคนิคเรื่องนี้ไม่ธรรมดาเลย ฉากที่หมีขย้ำคนนี่ผมยังสงสัยอยู่ว่าเค้าถ่ายทำอย่างไง มันเหมือนจริงมากๆ (ฉากที่ขี่ม้าตกเหวก็เช่นกัน)

    ในส่วนของทิวทัศน์ ภูมิประเทศ ก็งดงาม จับใจมาก เห็นแล้วอยากไปเที่ยว (แต่กลัวหมี กับหนาวตายก่อน)

    โดยสรุป เรื่องนี้ดูสนุกครับ แนะนำๆ
  • เกี่ยวกับ

    เป็นคนชอบใช้เวลาว่าง ดูหนัง ดูซีรีย์ เล่นเกมบ้างบางครั้งครับ แต่สิ่งที่ล่อเลี้ยงชีวิตอยู่ทุกวันนี้ก็คือการออกท่องเที่ยวปีล่ะ 1-2 ครั้ง ส่วนใหญ่ไปเที่ยวต่างประเทศมากกว่า เพราะอยากไปเห็นอะไรที่แตกต่างครับ

    เป็นคนช่างเลือกพอสมควร จะให้ 5 ดาวไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะครับ ยกตัวอย่างเช่น สถานที่ๆว่าสวยนั้น ผมแบ่งเป็น 2 ระดับ คือระดับที่ๆความสวยรับรู้ได้แค่ตา และอีกระดับคือความสวยนั้นรู้สึกเข้าไปถึงใจเลย ซึ่งการเยี่ยมเยือนสถานที่เหล่านี้นี่แหละครับคือช่วงเวลาที่แสนวิเศษของชีวิต

    รสนิยมการท่องเที่ยวคือวางแผนและไปกันเอง ไปกับพี่สาวและคุณพ่อเป็นส่วนใหญ่ เมื่อออกทริปหลายๆครั้ง เราก็เริ่มรู้จักรสนิยมของตัวเองมากขึ้น คือนอกจากจุดหมายต้องสวยจับใจแล้ว การเดินทาง ที่พักก็ต้องสะดวกสบายด้วยครับ มันถึงจะสามารถเติมเต็มให้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ อย่างไรก็ตามเรายังเลือกที่จะท่องเที่ยวอย่างประหยัดด้วย ทริปแต่ละครั้งของเราถูกกว่าไปกับทัวร์แน่นอนครับ