1. นี่มันเว็บอะไรกัน??? ทำความรู้จักคร่าวๆกับ รีวิวบุรี คลิกเลย

Mr.001

ผู้ว่าฯรีวิวบุรี

ผู้ดูแลเมือง
Mr.001 เคลื่อนไหวล่าสุด:
2 พฤศจิกา 2020
  • แนะนำซีรีย์ฝรั่งสนุกๆ

    รีวิวCHOSEN พลิกแผนฆ่า : แปลกใจที่ทำไมเรื่องนี้ไม่ดัง

    ให้คะแนน:
    4/5,
    (แนะนำ)
    ข้อเด่น - - เนื้อเรื่องบีบคั้น ชวนติดตามตั้งแต่ต้น
    ข้อด้อย - - พล็อตเรื่องมีตรรกะที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่
    - แต่ละซีซั่น สั้นไปหน่อย แค่ 4-6 ตอนเอง
    ด้วยความโชคดีจริงๆครับ พอดีเปิดไปเจอช่อง 5 ฉายอยู่ไม่กี่วันก่อน แต่ฉายจบไปแล้วนะครับ (มันสั้นมาก) ถ้าจะดูคงต้องไปหาดูในช่องทางอื่น ผมรีบไปสืบค้น ก็พบว่าที่ช่อง 5 เอามาฉายนี่เป็นซีซั่น 2 ก็งงเหมือนกัน แล้วซีซั่น 1 ล่ะ? (ไม่เป็นไรหาดูเองก็ได้) แต่ขนาดไม่มีต้น ไม่มีปลาย ยังดูสนุกเลย

    เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับทฤษฏีสมรู้ร่วมคิดของกลุ่มคนที่มีอำนาจ (เรียกว่าพวก Watcher) ขนาดที่สามารถควบคุมทุกสิ่ง แม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐก็เป็นพวกเดียวกับเค้า สามารถได้ยิน ได้เห็นทุกอย่างผ่านเทคโนโลยีต่างๆ เช่นกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งทั่วทั้งเมือง ประมาณคล้ายๆเรื่อง Enemy of the State (ถ้าใครเคยดูนะ) สรุปพวกนี้เหมือนพระเจ้าที่ไม่มีใครไปต่อกรได้ แต่กลุ่มผู้มีอำนาจในเรื่องนี้มันสารเลวกว่าเยอะ เพราะพวกมันเล่นสุ่มเลือกชาวบ้านตาดำๆ แล้วบังคับให้ต้องไปฆ่ากันเอง เพื่อความบันเทิงของพวกมัน ถ้าใครไม่ทำตาม ตัวเองและคนที่รักก็จะต้องตายแทน มันเลวจริงๆ :obj:

    แนวเรื่องมันก็มีส่วนคล้าย Walking Dead ตรงที่สะท้อนความเห็นแก่ตัวของคน จะเลือกอะไรระหว่างชีวิตคนในครอบครัว กับ ชีวิตคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่

    ผมค่อนข้างประหลาดใจว่าทำไมไม่ค่อยมีคนพูดถึงเรื่องนี้เลย ทั้งๆที่หนังจัดว่าชวนติดตามมากทีเดียว การเขียนบท และการดำเนินเรื่องมีให้ลุ้นตลอด บีบหัวใจมากจริงๆเวลาเห็นตัวเอกถูกบังคับในตัดสินใจเลือกอะไรที่ยากๆ แต่ผมว่าหนังให้พวก Watcher โผล่หน้าออกมาง่ายไปหน่อย และดูหน้าแล้วก็ไม่ค่อยเปล่งรัศมีความมีอำนาจซักเท่าไหร่

    จุดอ่อนอีกข้ออยู่ที่ตรรกะของพล็อตเรื่องครับ คือ ถ้าลองคิดว่ามีกลุ่มคนที่มีอำนาจล้นฟ้าขนาดนั้นจริง และมันเลวขนาดนั้นจริง ทำไมถึงจะจำกัดการใช้อำนาจและความเลวอยู่แค่การเล่นเกมนี้ มันมีอะไรที่พวกเค้าสามารถทำได้ เพื่อสนองตัณหา และความโรคจิตของตนเองได้อีกเยอะ

    รีวิวGame of Thrones มหาศึกชิงบัลลังก์ : สนุกดี ชวนติดตาม

    ให้คะแนน:
    4/5,
    (แนะนำ)
    ข้อเด่น - การเขียนบทและการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างน่าติดตาม
    - มีการลงทุนใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคที่สมจริง
    ข้อด้อย - ไอเดียหลักไม่มีอะไรใหม่ เป็นเรื่องการการชิงบัลลังก์ที่คล้ายหนังจีนสมัยก่อน แต่ผสมด้วยอภินิหารต่างๆแบบ Lord of The Ring
    ซีรีย์เรื่องนี้เป็นหนึ่งใน 5 เรื่องที่ผมแนะนำใน กระทู้ 5 สุดยอดซีรีย์ฝรั่งที่ต้องดู

    ตอนดูซีซั่นแรก รู้สึกได้อารมณ์แบบดูหนังจีนแนวชิงบัลลังก์เลย ประมาณว่าคนดีกลับถูกใส่ร้าย ส่วนคนชั่วเถลิงอำนาจ แต่พอดูต่อซีซั่น 2 ก็เริ่มรู้สึกสนุกขึ้น บทและการดำเนินเรื่องเริ่มน่าติดตาม นอกจากนี้ตัวหนังยังถูกแต่งแต้มให้ดูมีสีสันมากขึ้นด้วย 4 สิ่งต่อไปนี้

    1. ฉากเซ็กซ์ที่โจ๋งครึ่ม เท่าที่ผมสังเกตุ คนดูจะได้ดูสรีระของหญิงสาวที่เป็นตัวละครหลักเกือบทุกคน จะมีเว้นก็แต่ เด็ก และ ผู้สูงอายุ ที่คงไม่ค่อยมีใครอยากดู

    2. ฉากที่น่าสยดสยอง การตัดหัวคน ที่มีภาพให้เห็นแบบจะๆ หรือภาพร่างกายคนถูกตัดเป็นท่อนๆ คนถูกถลกหนัง

    3. อภินิหารต่างๆ ซึ่งทำให้รู้สึกคล้ายๆดูเรื่อง Lord of The Ring มีกองทัพปีศาจ มีมังกร และคงจะมีตามมาอีกหลายๆอย่างในซีซั่นต่อๆไป

    4. การเขียนบทให้ตัวละครหลักถูกฆ่าตาย แบบที่คนดูไม่ทันตั้งตัว เป็นเทคนิคที่ทำให้คนดูอยากติดตามเรื่องราวมากขึ้น ซึ่งผมเห็นการใช้เทคนิคนี้ใน Walking Dead มาแล้ว แต่เรื่องนี้ดูจะหนักกว่าเยอะเลย ดังนั้นแนะนำให้ทำใจไว้ด้วยนะครับ



    ข้อ 1 กับ 2 เป็นเหตุผลหลักที่ไม่แนะนำให้เด็กดู รวมถึงผู้สูงอายุที่เคร่งจารีตด้วย ไม่เหมาะอย่างยิ่งครับ

    สรุปเรื่องนี้ ดูแล้วมันก็ติดเหมือนกัน แต่ไม่มากให้ 4 ดาวครับ

    รีวิวThe Walking Dead เดอะวอล์กกิงเดด : สนุก ชวนติดตาม

    ให้คะแนน:
    5/5,
    (สุดยอด)
    ข้อเด่น - การเขียนบทที่ดี มีความเป็นดราม่าสูง ทำให้ไม่รู้สึกซ้ำซาก แม้ว่าจะมีภาพยนต์แนวซอมบี้แบบนี้มากมาย
    - การดำเนินเรื่องสนุก ตื่นเต้น
    - เทคนิคการถ่ายทำที่สมจริง
    ข้อด้อย - - ไม่เหมาะกับเด็ก เนื่องจากมีฉากที่รุนแรงหลายฉาก โดยเฉพาะในซีซั่น 4 เป็นต้นไป
    - เรื่องราวในแต่ละซีซั่นเริ่มจะดูวนๆ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปก็จะเริ่มซ้ำซากแล้ว
    ซีรีย์เรื่องนี้เป็นหนึ่งใน 5 เรื่องที่ผมแนะนำใน กระทู้ 5 สุดยอดซีรีย์ฝรั่งที่ต้องดู

    ความจริงมีหนังโรงแนวซอมบี้อยู่เยอะแล้ว แม้เรื่องนี้จะเป็นซีรีย์ละครชุด แต่แนวคิดก็ไม่ได้ใหม่อะไรเลย แต่พอได้ดูแล้ว กลับไม่ได้รู้สึกว่ามันซ้ำซากแต่อย่างใด คงเป็นเพราะการเขียนบทที่ดี ความแตกต่างคือมันไม่ใช่หนังที่เน้นเรื่องของแอ๊กชั่น หรือ CG (ถึงแม้ CG เรื่องนี้จะทำได้ค่อนข้างดีก็ตาม) แต่สิ่งที่ผู้เขียนบทดูจะใส่ใจและให้รายละเอียดมากคือ การจินตนาการว่า "สภาพการณ์" ที่เกิดขึ้นในเวลาจะเป็นอย่างไร "สังคมมนุษย์" จะเป็นอย่างไร "คน" ที่เหลือรอดอยู่ จะอยู่กันอย่างไร ท่ามกลางสภาพการณ์แบบนั้น

    ประเด็นใหญ่ที่หนังเรื่องนี้บอก คือ ในสภาพที่ไร้ขื่อแป สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ "คน" ด้วยกันเอง ส่วนพวกซอมบี้นั้น เป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้ที่จะรับมือได้ไม่ยากเย็นนัก เพราะพวกมันก็เหมือนสัตว์ป่าที่ทำทุกอย่างตามสัญชาติญาณเท่านั้น

    หลายๆครั้งที่หนังได้โยนประเด็นหนักๆกลับมาที่คนดูได้ขบคิด เช่น ครั้งหนึ่งพระเอกซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่ม ต้องเลือกระหว่างการมอบผู้หญิงหนึ่งให้กับกลุ่มคนไม่ดี ซึ่งคาดเดาได้ว่าเธอจะต้องถูกทรมานจนตาย หรือ เลือกที่จะสู้กับกลุ่มคนไม่ดีเหล่านั้น ซึ่งก็หมายถึงการบาดเจ็บล้มตายของคนในกลุ่มที่ฝากชีวิตไว้กับเค้า ควรจะเลือกอะไร ระหว่างสิ่งที่ถูกต้อง กับ ชีวิตของของคนดีๆอีกหลายคน แล้วการรักษาชีวิตของคนดีๆหลายคน จะถือเป็นความถูกต้องหรือไม่?

    เพราะฉนั้นจะเห็นว่าเรื่องนี้มีความเป็นดราม่าค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ผสมผสานด้วยความตื่นเต้นของการวิ่งหนีซอมบี้ CG ที่สมจริง และการดำเนินเรื่องที่สนุก ชวนติดตาม ทำให้เรื่องนี้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ

    สิ่งหนึ่งที่ต้องทำใจ สำหรับคนที่คิดจะดูเรื่องนี้คือ คนเขียนบทมักเลือกให้ตัวละครหลักตายแบบที่คนดูไม่ทันตั้งตัว ซึ่งการสร้างความสะเทือนใจแบบนี้ ดูเหมือนจะเป็นลูกเล่นอย่างหนึ่งของผู้สร้าง

    มีบางประเด็นที่ผมติดใจอยู่คือ

    1. บางครั้งมื่อตัวละครหลักตาย และกลายเป็นซอมบี้ พวกเค้าฆ่าซอมบี้ตนนั้นด้วยความจำใจ และเศร้าโศกอย่างที่สุด มีฝังศพอย่างสมเกียรติ แต่เวลากับซอมบี้ตนอื่น พวกเค้ากลับไม่ได้ให้เกียรติแบบเดียวกัน บางครั้งผมเห็นเหล่าตัวละครหลักฆ่าซอมบี้ด้วยสีหน้าที่มีรอยยิ้ม ดูเหมือนพวกเค้าจะลืมไปว่าซอมบี้เหล่านั้นก็อาจเป็นครอบครัวของใครบางคนเช่นกัน

    2. พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรให้เด็กๆดูเรื่องนี้เป็นอันขาด ในซีซั่นแรกๆบางท่านอาจเห็นว่าฉากน่ากลัวก็จะฉากเกี่ยวกับซอมบี้ซะส่วนใหญ่ แต่ตั้งแต่ซีซั่น 4 ช่วงหลังๆ จะมีฉากที่รุ่นแรงกว่านั้น ตัวอย่างฉากรุนแรงขอเขียนใน spoiler นะครับ
    เช่น ฉากที่ตัวละครหลักถูกตัดหัวอย่างสยดสยอง หรือเรื่องราวของกลุ่มคนที่กินเนื้อคนด้วยกันเอง

    3. เท่าที่ดูมาถึงซีซั่น 5 ผมเริ่มรู้สึกว่าเรื่องราวแต่ละซีซั่นมันเริ่มจะมีแบบแผนบางอย่าง ซึ่งต้องรอดูซีซั่นต่อไปก่อน ถ้าขืนยังเป็นอย่างงี้อยู่ก็จะถือว่าซ้ำซากแล้วครับ
    คือไปเจอแหล่งพักพิงที่ปลอดภัยที่นึงแล้วก็เจอคนไม่ดี ที่พักนั้นแตก ซอมบี้เข้ามา แล้วก็รอนแรมจนไปเจอที่ใหม่ แล้วก็เจอคนไม่ดี แล้วก็แตกอีก

    รีวิวLost ปริศนาป่ามรณะ : สนุก ในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

    ให้คะแนน:
    5/5,
    (สุดยอด)
    ข้อเด่น - เริ่มตั้งแต่คอนเซ็ปหลักของเรื่องที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร สร้างสรรค์
    - การเขียนบทที่แยบยล เชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆเข้าด้วยกันพิถีพิถัน และทำให้คนดูได้ประหลาดใจตลอดเวลา
    - การดำเนินเรื่องที่สนุก โดยไม่ต้องมีฉากบู้
    - ฉากหลังของเรื่องเป็นเกาะสวยงาม
    ข้อด้อย - กลางๆของแต่ละซีซั่นชอบแอบเอื่อยๆให้รำคาญบ้าง
    - ตอนจบยังงงๆ คิดเชิงตรรกะแล้วไม่ค่อยลงตัว
    - ความสัมพันธ์รักสามเส้าระหว่างตัวละครเอกค่อนข้างน่ารำคาญสำหรับผม
    ซีรีย์เรื่องนี้เป็นหนึ่งใน 5 เรื่องที่ผมแนะนำใน กระทู้ 5 สุดยอดซีรีย์ฝรั่งที่ต้องดู

    ในบรรดาซีรีย์ที่ผมดูมา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกที่สุด คืออธิบายยากว่าเป็นหนังแนวไหน เวลาแนะนำคนอื่นให้ดู บอกว่าสนุกดีนะลองไปดูซิ เค้าถามกลับมาว่าสนุกอย่างไง ตอบไม่ค่อยถูกเลยครับ มันไม่ใช่หนังแนวแอ๊กชั่น ไม่ใช่หนังวิ่งหนีสัตว์ประหลาด ไม่ใช่หนังผี ไม่ใช่สืบสวนสอบสวน ไม่ใช่หนังตลก จะว่าดราม่าก็ไม่เชิง แต่ก็ใกล้เคียงที่สุด เห็นว่าได้รางวัลสาขาดราม่า คือที่คนเขียนคิดเรื่องนี้ขึ้นมา ผมว่าน่าจะเรียกว่าเป็นนวตกรรมใหม่ของละครโทรทัศน์เลยก็ว่าได้ ความสนุกของเรื่องน่าจะมาจากการที่หนังค่อยๆเผยความจริงบางอย่างออกมา แล้วสิ่งที่เผยออกมาก็สร้างความฉงนให้กับคนดู ให้ต้องไปขบคิดว่า เอ๊ะทำไมมันเป็นอย่างงี้

    หนังมีทั้งหมด 6 ซีซั่น ผมเชื่อว่าอย่างน้อยโครงเรื่องทั้งหมดต้องเขียนเสร็จก่อนที่จะนำมาสร้างเป็นซีรีย์ เพราะสิ่งที่ค่อยเผยออกมาตั้งแต่ซีซั่นแรกจนซีซั่นสุดท้าย มันเหมือนจิ๊กซอที่เปิดออกมาให้ดูทีละชิ้น แล้วมันก็จะค่อยๆเชื่อมโยง ให้เห็นภาพ สิ่งที่ผูกเป็นปมไว้ในซีซั่นแรก บางทีไปเฉลยในซีซั่นสุดท้าย เป็นต้น พอถึงซีซั่นหลังๆ เราได้จิ๊กซอมาจนเกือบครบ เราถึงเริ่มเข้าใจว่านี่มันหนังเกี่ยวกับอะไร

    นอกจากการผูกปมปริศนาแล้ว การดำเนินเรื่องก็สนุก ชวนติดตาม แต่ช่วงกลางๆแต่ละซีซั่นชอบแอบเอื่อยๆ ลักษณะการดำเนินเรื่องซีซั่นแรกๆจะเป็นการฉายสลับกันไปมาระหว่างเรื่องราวปัจจุบันที่เกิดขึ้นบนเกาะ กับ เรื่องราวในอดีตของตัวละครแต่ละตัว พอตอนหลังๆ ก็กลายเป็นสลับระหว่างเรื่องบนเกาะกับเรื่องที่เกิดขึ้นในอนาคต บางซีซั่นเปิดมาตอนแรกมึนเลยครับ นึกว่าหยิบหนังมาผิดตอน

    สรุปว่าสนุกครับ สนุกมากด้วย ดูแล้วรับรองไม่ผิดหวัง ปกติผมดูแต่หนังพากย์ไทย เพราะภาษาอังกฤษไม่แข็ง และไม่ชอบมานั่งอ่าน แต่เรื่องนี้ไม่มีพากย์ไทยผมก็ยังดู เพราะมันสนุก และส่วนหนึ่งก็เพราะบทสนทนาในเรื่องนี้มักเป็นแบบประโยคสั้นๆ ฟังง่าย เหมาะกับคนที่อยากฝึกฟังภาษาอังกฤษครับ

    สำหรับนางเอกในเรื่องนี้ Evangeline Lilly ผมว่าเธอดูดี มีเสน่ห์ และเซ็กซี่ที่สุด ก็ตอนที่แสดงเรื่องนี้แหละครับ เคยเห็นในหนังโรงเรื่อง Real Steel กับ Hobbit ดูไม่มีเสน่ห์เลย

    เกาะที่เป็นฉากหลังของเรื่องนี้ก็สวยงามครับ ดูแล้วเจริญหู เจริญตา สบายใจ

    รีวิว24 (24 ชั่วโมงอันตราย) : หายใจแทบไม่ทัน

    ให้คะแนน:
    5/5,
    (สุดยอด)
    ข้อเด่น - การดำเนินเรื่องสนุกเข้มข้นทุกตอน
    - เขียนบทดี เนื้อเรื่องมีการพลิกผันตลอดเวลา คาดเดาได้ยาก
    ข้อด้อย - ช่วงแรกๆ ของซีซั่น 1 ค่อนข้างน่าเบื่อ แต่ถ้าดูจนถึงกลางเรื่องจะเริ่มสนุก
    ซีรีย์เรื่องนี้เป็นหนึ่งใน 5 เรื่องที่ผมแนะนำใน กระทู้ 5 สุดยอดซีรีย์ที่ต้องดู

    ผมคงเสียดายแย่ ถ้าเกิดมาแล้วไม่ได้ดูซีรีย์แนวสืบสวนผสมแอ๊กชั่นเรื่องนี้ เป็นอะไรที่มันมากๆ ในขณะที่เรื่องอื่นบางเรื่องจะทำให้เข้มข้นเฉพาะตอนช่วงต้น กับ ช่วงปลายของซีซั่น แล้วแอบมีเอื่อยๆตอนกลางๆ แต่เรื่องนี้ ลุ้นทุกตอน ปกติผมเป็นคนคุมตัวเองได้ดีนะครับ กำหนดว่าวันนึงดูกี่ตอน ดูครบก็คือเลิก เข้านอน แต่สำหรับเรื่องนี้คุมไม่ค่อยอยู่เลยครับ เคยนั่งดูถึงตี 4 ออกมาแต่ละซีซั่นไม่มีผิดหวังเลย คนเขียนบทเก่งมาก เนื้อเรื่องมีการพลิกผัน หักมุมอยู่บ่อยครั้ง โดยแต่ละซีซั่นมักจะเป็นผู้ก่อการร้ายคนละกลุ่มกัน แต่สุดท้ายก็ยังมีเชื่อมโยงกันบ้างในส่วนของ background ของตัวละครแต่ละตัว ดังนั้นดูเรียงลำดับจะดีที่สุดครับ

    นอกจากให้ดูกันสนุกๆ แล้ว หนังเรื่องนี้มักตั้งประเด็นใหญ่ประเด็นนึงให้คนดูได้ขบคิด นั่นคือ การเลือกระหว่าง กฏหมาย สิทธิมนุษยชน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กับ ชีวิตคนบริสุทธิ์จำนวนมหาศาล และความยุติธรรม ในเรื่อง พระเอก แจ็ค บาวเออร์ เค้าเลือกอย่างหลังครับ ถ้าระเบิดนิวเคลียร์มันกำลังจะระเบิดในไม่ช้า แล้วมีคนร้ายที่จับได้เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นเบาะแส เค้าจะทำทุกอย่างรวมถึงการทรมาน เค้ายังพร้อมที่จะลักพาตัวประธานาธิบบดี บุกสถานฑูตต่างชาติ หรือแม้แต่ยอมสละชีวิตตัวเองหลายต่อหลายครั้ง

    จุดบอดของเรื่องนี้อยู่ที่ซีซั่นแรกครับ อาจเป็นเพราะยังใหม่อยู่ คนเขียนบทเลยเขียนออกมาได้น่าเบื่อมากๆในช่วงต้นๆ จะเป็นเรื่องของเด็กวัยรุ่นหนีเที่ยว แต่ถ้าอดทนดูถึงตอนกลางๆเรื่องจะรู้ว่าเด็กวัยรุ่นหนีเที่ยวจะเกี่ยวข้องกับความมั่นคงระดับชาติอย่างไร นอกจากนี้ ผมค้นข้อมูลพบว่าซีซั่นแรกฉายตั้งแต่ปี 2001 ก็ 14 ปีมาแล้วนะครับ สมัยนั้นสมาร์ทโฟนยังไม่มีเลย เสื้อผ้า หน้าผม นักแสดงยังดูเชยๆ แต่โดยรวมแล้ว ผมยังยืนยันว่าถ้าดูซีซั่นนี้จนจบคุณต้องรีบไปหาซีซั่น 2 มาดูต่อแน่นอน

    รีวิวPrison Break แผนลับแหกคุกนรก : ลุ้นสนุก ดูแล้วอยากดูต่อเรื่อยๆ

    ให้คะแนน:
    5/5,
    (สุดยอด)
    ข้อเด่น - แนวคิดการเอาเรื่องแหกคุกมาเป็นโครงเรื่องค่อนข้างแปลกใหม่
    - การดำเนินเรื่องสนุก ตื่นเต้น ชวนติดตาม
    ข้อด้อย - ซีซั่นหลังๆไม่สนุกเท่าซีซั่น 1 ดูเหมือนเป็นการเติมเรื่องขึ้นมาภายหลัง (แต่ก็ยังถือว่าสนุกอยู่)
    ซีรีย์เรื่องนี้เป็นหนึ่งใน 5 เรื่องที่ผมแนะนำใน กระทู้ 5 สุดยอดซีรีย์ฝรั่งที่ต้องดู

    เรื่องนี้แวบแรกที่ได้เห็น ชื่อ "แหกคุก" แถมภาพโพสเตอร์เป็นรูปพวกนักโทษหัวโล้น (เพิ่งรู้ภายหลังว่าสาวๆกรี๊ดพระเอกคนนี้มาก) มันให้อารมณ์เป็นหนังแบบดิบๆ เถื่อนๆ เลยไม่ได้สนใจอะไร แต่ตอนหลังมีคนแนะนำ พออ่านเรื่องย่อดู ก็ เออ น่าสนใจดี พอเอามาดูเท่านั้นแหละครับ ติดงอมแงม ความสนุกของเรื่องนี้อยู่ที่

    1. ความฉลาดของพระเอกที่มีการวางแผนอย่างแยบยล (ซึ่งเป็นแนวที่ผมชอบ ชอบตัวเอกฉลาดๆ)
    2. แนวการดำเนินเรื่องมีให้ได้ลุ้นตลอด แม้จะวางแผนมาอย่างดี แต่หนังก็สะท้อนความเป็นจริงของชีวิตที่ว่า มันมักไม่เป็นไปตามแผนเสมอ และก็ต้องมาใช้ไหวพริบแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป ได้นั่งลุ้นว่าจะถูกจับหรือเปล่า ประมาณนั้น

    ก่อนดูซีรีย์เรื่องนี้ ผมเคยดูหนังเกี่ยวกับการแหกคุกมาบ้าง แต่เนื้องเรื่องไม่ได้ไปเจาะเอาขั้นตอนการแหกมากทำเป็นเรื่องให้ลุ้นสนุกขนาดนี้ จึงต้องชมคนเขียนบนเรื่องนี้ด้วยครับว่าไอเดียดีมาก

    เรื่องนี้ซีซั่นแรกสนุกที่สุดแล้วครับ ในซีซันหลังๆ โดยเฉพาะซีซัน 3 ลงมา ดูแล้วไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะหนังมันได้รับความนิยมมากเลยเขียนเรื่องต่อ เกาะกระแสหรือเปล่า เพราะความสนุกดูจะลดลง และถ้าเอามาต่อกับซีซั่น 1 และ 2 แล้วดูไม่แนบสนิทกัน อย่างไรก็ตาม ก็ยังถือว่าสนุกอยู่ดีแหละครับ ถ้าให้คะแนนแยก ผมจะให้ซีซั่นแรก 5 ดาว และให้ซีซั่นต่อๆมา 4 ดาวครับ
  • เกี่ยวกับ

    เป็นคนชอบใช้เวลาว่าง ดูหนัง ดูซีรีย์ เล่นเกมบ้างบางครั้งครับ แต่สิ่งที่ล่อเลี้ยงชีวิตอยู่ทุกวันนี้ก็คือการออกท่องเที่ยวปีล่ะ 1-2 ครั้ง ส่วนใหญ่ไปเที่ยวต่างประเทศมากกว่า เพราะอยากไปเห็นอะไรที่แตกต่างครับ

    เป็นคนช่างเลือกพอสมควร จะให้ 5 ดาวไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะครับ ยกตัวอย่างเช่น สถานที่ๆว่าสวยนั้น ผมแบ่งเป็น 2 ระดับ คือระดับที่ๆความสวยรับรู้ได้แค่ตา และอีกระดับคือความสวยนั้นรู้สึกเข้าไปถึงใจเลย ซึ่งการเยี่ยมเยือนสถานที่เหล่านี้นี่แหละครับคือช่วงเวลาที่แสนวิเศษของชีวิต

    รสนิยมการท่องเที่ยวคือวางแผนและไปกันเอง ไปกับพี่สาวและคุณพ่อเป็นส่วนใหญ่ เมื่อออกทริปหลายๆครั้ง เราก็เริ่มรู้จักรสนิยมของตัวเองมากขึ้น คือนอกจากจุดหมายต้องสวยจับใจแล้ว การเดินทาง ที่พักก็ต้องสะดวกสบายด้วยครับ มันถึงจะสามารถเติมเต็มให้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ อย่างไรก็ตามเรายังเลือกที่จะท่องเที่ยวอย่างประหยัดด้วย ทริปแต่ละครั้งของเราถูกกว่าไปกับทัวร์แน่นอนครับ