Nikko เมืองแห่งวัดมรดกโลก

Nikko เป็นเมืองหนึ่งอยู่ในจังหวัด Tochigi ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก แต่ก็ใช้เวลาเดินทางพอสมควรค่ะ หากไม่ใช่รถด่วน ก็ตกอยู่ที่ประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ ตอนเดินทางนี่นั่งหลับคารถไฟเลยค่ะ555555

บัตรเหมาของ Nikko มีอยู่สามแบบค่ะ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากจะเที่ยวแบบไหน

1. Nikko All Area Pass (ชื่อเดิม All Nikko Pass) : 4 วัน 4,520 เยน
2. Nikko City Area Pass (ชื่อเดิม 2 Day Nikko Pass) : 2 วัน 2,670 เยน
3. Theme Park & Nikko City Area Pass (ชื่อเดิม Kinugawa Theme Park Pass) : 2 วัน 8,010 เยน

สามารถเช็คราคาและรายละเอียดบัตรเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ : Discount Pass Information | TOBU RAILWAY

ส่วนตัวที่เคยใช้ จะเป็น 2 Day Nikko Pass ของบริษัท Tobu ซึ่งราคาจะอยู่ที่ 2670 เยนค่ะ ข้อดีของมันคือ นอกจากจะรวมราคารถไฟจาก Asakusa ไปยัง Tobu-Nikko แล้ว เรายังสามารถใช้ World Heritage Bus ที่ Nikko ฟรีอีกด้วย ทุกอย่างรวมในบัตรหมดแล้ว คุ้มค่าดีค่ะ

การซื้อตั๋ว สามารถซื้อออนไลน์ได้ค่ะ แล้วค่อยนำหมายเลขการจองไปออกตั๋วจริงที่ญี่ปุ่น หรือจะซื้อพาสทันทีแบบความเห็นก่อนหน้านี้ก็ได้ค่ะ ไปที่ Tourist Information Center ที่ Asakusa เพื่อได้ออกตั๋วได้เลย

เอาจริงๆ Nikko เราควรคาดเวลาไว้เลยว่าเที่ยวสองวันแน่ๆ เพราะว่าวันเดียวไม่น่าหมดค่ะ มีจุดที่น่าสนใจเยอะพอสมควร ส่วนวัดนี่ก็มีทั้งเข้าชมได้ฟรีและเสียเงินค่ะ หากจะมา Nikko ให้คุ้มจริงๆ ต้องทำการบ้านมานิดนึง

ส่วนตัวชอบที่นี่นะคะ คือนอกจากจะรักษาธรรมชาติอย่างดีแล้ว ตัววัดและช่วงตัวเมืองก็น่าสนใจค่ะ ตามร้านค้าเล็กๆก็มีขนมขาย แนะนำของขึ้นชื่อของ Tochigi ค่ะ เป็นสตรอเบอรี่นี่แหล่ะ ก็จะมีพวก KitKat หรือ Collon รสชาติเฉพาะของที่นี่อยู่ด้วย ลองซื้อมาชิมกันนะคะ (แต่รู้สึกว่ามันก็ไม่ต่างกับรสสตรอเบอรี่ปกติเท่าไหร่นะ55555555)

ยังมีอีก อ่านต่อ...

การไปNIKKO ก็จะต้องไปซื้อพาสจาก สถานี Asakusa ก่อน ซึ่งเริ่มขายประมาณ 8 โมงตรง พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ (แบบสำเนียงญี่ปุ่น) โดยเขาจะพยายามให้ข้อมูลเรา เกี่ยวกับการท่องเที่ยวการใช้พาส แล้วก็รูทการเดินทาง ซึ่งถ้าไปตามรูทของเขา ก็คือเราจะลงที่สุดท้ายก่อนแล้วเดินกลับมาที่แรก (ซึ่งจุดนี้เรากับเพื่อนไม่รู้เรื่องเลยไปตามทางของตัวเอง เลยกลายเป็นเดินย้อนไปมา) ซึ่งที่ซื้อจะเป็น 2 Day Nikko Pass ตั๋วรวมตั๋วรถไฟ ไปกลับจาก Asakusa ไป NIKKO และ บัสที่รับส่งจากสถานีรถไฟไปยังแหล่งท่องเที่ยวด้วย อันนี้แนะนำเพิ่มเติม ระหว่างรอรถไฟอย่าลืมซื้อข้าวกล่องรถไฟด้วยนะคะ มีขายอยู่ที่สถานีเลยเห็นชัด มีหลายอย่างอร่อยทั้งนั้น บนรถไฟจะมีที่สำหรับดึงออกมาเป็นโต๊ะทานได้เลย ไม่ต้องห่วง เพราะระยะเวลากินประมาณ 2 ชั่วโมงได้ กิน-นอน-เม้าท์มอยได้สบาย

ที่ NIKKO จะมีสถานที่ท่องเที่ยวพวกวัดเยอะมากกกกก จริงๆถ้าไปแค่วันเดียวก็คงไม่หมดหรอก(เขาถึงออกเป็น2 DAYNIKKO PASS ไง ) ก็เลือกเรา ส่วนตัวมีเวลาที่นี่แค่วันเดียว ค่าเข้าวัดค่อนข้างแพง จำได้ว่าบางวัดมีซื้อรวม 3 ที่ ซึ่งจะถูกกว่า อันนี้ตามความชอบแต่เราไม่ได้ใช้ วัดริโนจิไม่ได้ไปเพราะซ่อมอยู่ แต่เข้าสวนโซโยเอ็น(500เยน)แทน เหมาะกับการไปถ่ายรูปชิคๆในสวนสไตล์ญี่ปุ่น น่ารักกุ๊กกิ๊กกันไป วัดที่เขาจริงๆพื้นที่ไม่ได้ใหญ่มากอะไร(และค่าเข้าแพง) แต่ละวัดก็จะมีลักษณะเฉพาะตัวกันไป(ไม่ค่อยได้เข้าเท่าไหร่) แล้วก็สะพานแดงที่เลื่องชื่อ ถ่ายรูปสวยมาก ฮ่าๆ สีแดงจริง วิวดี แต่ถ้าจะขึ้นไปถ่ายบนสะพานจะเสียตัง ส่วนใหญ่ก็จะยืนถ่ายกับสะพานข้างล่างที่แหละ ดีแล้ว ได้รูปตัวเรากับเต็มสะพานด้วย

จริงๆNIKKO นี่เป็น 1 ในจุดที่ต้องไป เพื่อชมมรดกโลกของญี่ปุ่นเลยทีเดียว ระยะทางแต่ละสถานที่เดินได้ค่ะ แต่ไกล แต่เราเป็นวัยรุ่นเลยโอเคอยู่ สำหรับแก่ๆแล้วอาจจะลำบากหน่อย เราว่าวัดข้างในค่อนข้างคล้ายๆกัน เลือกเอาแค่วัดใหญ่ๆก็ได้นอกนั้นก็ใช้ถ่ายข้างนอกเอา