LOGAN

เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แยกมาให้ Logan คนเดียว ส่วนตัวเคยดูแค่ X-Men: Apocalypse แค่ภาคเดียว นอกนั้นยังไม่เคยได้ดูเลย ก็เลยจะไม่ค่อยมีความรู้ลึกๆในส่วนของตัวละครเท่าไหร่นัก

ในเรื่อง Logan ก็จะเปรยๆว่า โลกนี้แทบจะไม่มีมนุษย์กลายพันธุ์เหลืออีกแล้วเพราะถูกล้างเผ่าพันธุ์ แถมยังไม่มีมนุษย์กลายพันธุ์เกิดใหม่มานานหลายปีแล้ว และมนุษย์กลายพันธุ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ค่อยๆแก่ตัวลง จากที่เคยเก่งกาจ พลังและความสามารถของพวกเขาก็ลดลงตามไปพร้อมอายุ ไม่สามารถบู๊ฟัดได้เหมือนแต่ก่อน

Logan ได้ดูแล Charles Xavier ในช่วงที่เขาแก่ตัวละไม่สามารถควบคุมพลังของตัวเองได้ โดยการซ่อนตัวอยู่กันเงียบๆ แต่ในวันหนึ่งก็มีหญิงสาวคนนึงมาร้องขอความช่วยเหลือจาก Logan เพราะเธอกับลูกถูกตามล่าจากสิ่งๆหนึ่งอยู่ ซึ่งตอนแรกเขาก็ไม่สนใจ แต่สุดท้ายแล้ว Logan ก็โดนดึงเข้าไปเกี่ยวพันอยู่ดี

เป็นหนังที่เน้นเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างดราม่า มีตลกแทรกมานิดๆ ซึ่งเอามารวมกับช่วงแอ็คชั่นได้ลงตัวดีค่ะ ฉากต่อสู้ก็จะมีมาให้ลุ้นอยู่เรื่อยๆ รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่สู้กันได้ดิบเถื่อนมาก ฆ่ากันเลือดสาดอย่างโหดเหี้ยม คอขาด กรงเล็บเสียบหัว และมีฉากรุนแรงค่อนข้างเยอะ แต่ว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยได้ใช้ CG และพลังวิเศษมากนักนะคะ เน้นการไล่ล่า กับการต่อสู้ใช้แค่ปืนกับกรงเล็บ Logan มากกว่า

ในส่วนของดราม่า เรื่องราวๆต่างๆที่ปูมาตั้งแต่ต้น พอถึงช่วงท้ายๆเรื่องนี้ซึ้งมากค่ะ มันทำให้เรารู้สึกรัก Logan ขึ้นมาเลย ทั้งๆที่ไม่เคยดูหนังภาคก่อนๆ หรือรู้เรื่องราวของเขามาก่อนที่จะดูหนังเรื่องนี้

ตัวละครเด่นกันอยู่สองตัวเลย นั่นก็คือ Logan กับ Laura (เด็กผู้หญิง) แสดงได้ดีมากๆ ทั้งอารมณ์และการแสดงออกตลอดเรื่อง โดยเฉพาะช่วงแรกๆไม่ต้องพูดอะไรก็ดูรู้ว่า Laura ไม่ธรรมดาแน่นอน

สำหรับคนที่ไม่เคยดูภาคอื่นๆมาก่อน ก็ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องนี้เหมือนเป็นเรื่องที่สร้างแยกออกมา เพียงแค่อาจจะไม่เข้าใจความสัมพันธ์ลึกๆว่า มนุษย์กลายพันธุ์ที่ Logan อยู่ด้วยทั้งสองคนเป็นใครหรือเคยทำอะไรมา แค่นั้นเองค่ะ

Logan

แม้ไม่ใช่แฟน X-Men หรืออาจจะไม่เคยดูภาคก่อนๆ หรือดูไม่ครบภาคก็ไม่เป็นไร ก็ยังพอปะติดปะต่อได้เพราะ Logan เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อเนื่องจากภาคก่อนๆ เริ่มเรื่องมาก็เล่าถึงโลแกนในช่วงเวลาที่ใกล้ล่วงโรยเต็มที พลังอมตะที่เคยมีอยู่ก็ไม่เต็มแรงสูบเหมือนเมื่อก่อน ...เลยทำให้ภาคนี้มีความเถื่อน ดิบโหด มืดหม่น และไม่เป็นไปตามครรลองของหนังแอ๊คชั่นฮีโร่ช่วงซัมเมอร์ที่ชอบทำกัน กล่าวคือ พระเอกเราไม่ใช่ว่าจะกำราบพวกถ่อยได้อยู่มือหรือเท่ห์ระเบิดอะไรขนาดนั้น ตรงกันข้าม เราจะได้เห็นพระเอก (เกือบ) ตกรุ่นที่ต้องมารับหน้าที่ปกป้องดูแลลูกสาวตัวเองให้รอดพ้นจากกำมือของผู้ร้ายที่ยกกำลังมาเพียบ พร้อมจะต่อกรกับเขาโดยเฉพาะ

นั้นจึงทำให้หนังมีความเป็นดราม่าในเรื่องของสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อ-ลูก ก็นับเป็นอีกจุดแข็งที่หนังโลแกนมีนะครับ เพราะสามารถทำให้เราเอาใจช่วยให้ปลอดภัยทั้งพ่อลูก ตัวละครน่าเอาใจช่วยโดยเฉพาะหนูน้อย X-23 ที่คาดว่า ผู้ชมน่าจะจดจำเธอไปได้เรียบร้อยจากบทบาทในเรื่องนี้

โดยรวม Logan ก็ยังเป็นหนังที่น่าตีตั๋วไปชมกันในช่วงสัปดาห์นี้ เพราะครบครันทั้งด้านความบันเทิง เนื้อเรื่องส่งท้ายบทโลแกน วูฟเวอรีน ก็เล่นเอาน่าจดจำและตรึงใจจนบางคนอาจจะเสียน้ำตาให้กับหนังเรื่องนี้ได้นะครับ แอ๊คชั่นที่อาจจะไม่มโหฬารชนิดถล่มบ้านเมืองหรือแอ๊คชั่นด้วยภาพ CG แบบเรื่องอื่นๆ แต่ด้วยบรรยากาศของเรื่องที่ให้อารมณ์ห่างไกล บ้านทุ่ง ฉากต่อสู้ที่ออกมาเลยเรียกได้ว่า ถึงใจถึงอารมณ์และสะใจคอหนังอย่างมาก และความรุนแรงที่มีให้เห็นเต็มทั้งเรื่อง ทั้งเสียบคอ ตัดแขนขา ตัดหัวอีกสารพัดอย่าง คือทุกฉากต่อสู้ต้องมีให้ปรากฏเห็นครับ ...ก็ลองๆ ดูกันนะครับสำหรับใครที่อาจจะไม่ชอบในส่วนของตรงนี้ แต่ยังไง ก็คุ้มค่าที่จะตีตั๋วชมในโรงอย่างแน่นอนครับ

8/10
เนติพงษ์ สิงหะ

​

ด้วยความที่แม่เป็นคนที่ชอบหนังฮีโร่ และดูเหมือนจะชอบซีรีส์ x-men มานานแล้ว ลากเราที่อายุถึงพอจะดูรู้เรื่องเรื่องแรกคือ wolverine 2 เป็นเรื่องแรกในซีรีส์ที่เราได้เข้าไปดูและหลังจากนั้นก็ไม่เคยพลาดสักภาค เรื่องนี้ก็เหมือนกันที่เราเฉยๆกับตัวอย่างแต่ก็ยังคงอยากติดตามต่อ

หนังเล่าถึงวูล์ฟเวอรีนที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาในตอนที่เขาพลังเริ่มจะหายไป และเริ่มแก่ตัวร่างกายรักษาตัวเองได้น้อยลง แต่เขากลับได้รับภารกิจให้พาเด็กหนี เด็กที่เป็นมนุษย์กลายพันธุ์แบบเดียวกับเขา พาเธอไปสมทบกับเพื่อนที่หนีออกมาจากสถานทดลอง

การดำเนินเรื่องสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ฉากแอคชั่นสนุกสมกับเรท R ในต่างประเทศ ยิ่งถ้าดูภาคอื่นๆมาก่อนจะยิ่งเข้าใจความสัมพันธ์กับตัวละครมากยิ่งขึ้น ทำให้ดูและเข้าใจในตัวอารมณ์ความสัมพันธ์ระหว่างโลแกนกับชาลส์ได้ดียิ่งขึ้นด้วย คือเราไล่ดูมาหมดทุกภาคแล้วพอมาดูภาคนี้เลยเข้าใจความสัมพันธ์ ไทม์ไลน์โดยคร่าวๆ ความรู้สึกของตัวละคร เราอยากแนะนำให้ดูภาคแรกๆก่อน หรือไม่อย่างนั้นก็ดูย้อน แต่โดยรวมเป็นหนังที่ดูเดี่ยวๆได้ เพราะมันแทบไม่ได้ต่อกันเลย มีแค่อย่างฉากดาบซามูไรที่โผล่มาให้เห็นงี้ แต่ถ้าดูก็จะเข้าใจได้ดีขึ้นเยอะ5555

​

เรื่องการแสดงเราว่าทำได้ดีทั้งหมด โดยเฉพาะเด็กลอร่าที่เราเห็นตั้งแต่ตัวอย่างและให้ความรู้สึกสัตว์ป่ามาก ชอบ5555 เรื่องนี้บทดราม่าก็มี แต่ช่วงท้ายๆเหมือนยังไม่ค่อยอินเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ตัวละครมันยังดูไม่ผูกพันขนาดนั้น แต่เอาจริงๆก็ทำน้ำตาซึมนะ5555 เราไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้จะนับอยู่ในไทม์ไลน์ไหน ก่อน day of future past หรือหลัง หรือแยกออกมาเลย รบกวนผู้รู้ด้วยค่ะ5555 ถือว่าเป็นการจบไตรภาคและตัว Hugh Jackman ในบทวูล์ฟเวอรีนได้ดี

โดยสรุป ใครชอบหนังแอคชั่นซูเปอร์ฮีโร่ควรดู ยิ่งฉากแอคชั่น ถึงแม้อาจจะรุนแรงสำหรับบางคนแต่เราชอบจริงๆ มันตื่นเต้นจริงๆนะ555 ก็อยากให้ได้ลองดูซีรีส์นี้กัน ยังเข้าโรงและคงเข้าอีกนาน รอบเยอะบานตะไทด้วยค่ะ5555

Logan
นิยามที่แท้จริงของคำว่า "โหด"

พูดกันตามตรงแบบไม่ใช้ความเป็นแฟนคลับคือ "ไม่ค่อยจะถูกใจกับหนังเดี่ยวของ วูฟเวอรีน เท่าไหร" ถ้าจะให้ไล่มาตั้งแต่ภาค Origin ภาค โตเกียว สามารถชี้จุดบกพร่องได้เป็นสิบ ๆ จุด ยิ่งส่วนตัวมีความรู้สึกว่าหนัง X-men ไตรภาคแรกก็เป็นเนื้อหา Logan and his friends อยู่แล้ว เลยเกิดข้อสงสัยนิดว่าจะแยกทำไม (อันนี้ถ้าไม่พูดถึงมุมมองของธุรกิจเรื่องลิขสิทธิ์ ฯลฯ เป็นที่ตั้ง)

หลังจากจบ X-Men : Day of the future past ไปแล้ว ทำให้แฟรนไชส์นี้มีเหตุการณ์ที่แตกแขนงออกไปเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือเรื่องราวในอดีต อันเป็นภาคที่พึ่งฉายไปแล้วคือ Apocalypse และอีกส่วนคือเรื่อง Logan นี้ ที่เป็นเนื้อหาในอนาคต โดยยังไม่รู้เลยว่าเรื้อหาใน Deadpool นี่จะไปต่อในส่วนไหน

หนังเล่าเรื่องราวในอนาคต ยุคที่มนุษย์กลายพันธุ์กำลังร่อยหรอ ความชราที่ตามมาด้วยปัญหามากมายสร้างชาร์ล ซีเวียให้กลายเป็นคนอันตราย เฮียวูฟที่พลังการเยียวยาแทบจะใช้การไม่ได้ กลับต้องทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดจำเป็น ปกป้องหนูน้อยที่ถูกองค์กรปริศนาไล่ล่าอย่างเอาเป็นเอาตาย ท่ามกลางการเดินทางไปสู่จุดหมายที่ทั้ง 3 คนต่างตั้งใจไว้

แค่ขนาดเนื้อเรื่องคร่าวๆ ยังมืดหม่นแล้ว พอมันออกมาเป็นภาพกับการใช้มุมกล้อง ดนตรีประกอบบวกการแสดงยิ่งย้ำให้ความหม่นของหนังหนักแน่นอย่างบอกไม่ถูก นี่สิมันต้องแบบนี้ถึงจะเรียกว่าดาร์ค ไม่จำเป็นต้องใช้ตอนมืดหรือการจำกัดมุมมองภาพให้ออกโทนดำหรือโทนฟ้าเลย

ตัวหนังค่อนข้างเป็นเอกเทศ ไม่ต้องติดตามมาทุกภาคก็เข้าใจ ฃได้ แถมยังแตกต่างจากหนังชุด X-men ทุกภาคอย่างสิ้นเชิง ซึ่งอาจทำให้ฐานแฟนคลับบางกลุ่มอาจไม่ชอบ แต่หนังกล้าเลือกที่จะแตกต่าง ในมุมที่ดูสมจริงและมันน่าเอาใจช่วยตัวละครให้ผ่านพ้นทุกปัญหากว่าทุก ๆ ภาคที่ผ่านมา

งานด้านภาพนั้นจัดองค์ประกอบได้สวยสดงดงามมาก เหมือนหนังจะเน้นไปที่งานสตั้นท์มากกว่าใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคอย่างที่ยุคนี้นิยม แต่พองานเทคนิคนี้แบบก่อน ๆ ม้นยิ่งย้ำความสมจริงของเนื้อเรื่องให้เข้มข้นขึ้นไปอีก

หลายคนอาจคาดหวังดูหนังแอ็คชั้นอันหวือหวา แต่บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่เซอร์วิสขนาดนั้น แอ็คขั้นในเรื่องสเกลค่อนข้างเล็ก ไปจนถึงเล็กมาก แต่ทดแทนด้วยการดำเนินเรื่องที่ค่อย ๆ ส่ง ค่อย ๆ ปั้นอารมณ์มาอย่างดีเยี่ยม ทำให้ซีนเล็ก ๆ เหล่านั้นล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ทำให้คนดูอินจริง ๆ

หนูน้อยหน้าตาขวางโลกในเรื่องไม่รู้ว่าทีมงานไปขุดมาจากไหน หนูช่างเล่นได้เป็นธรรมชาติมาก หากนี่เป็นการเตรียมปูทางให้น้องหนูมาเป็นตัวหลัก เชื่อว่าน่าจะประคองหนังไว้ได้อยู่

4/5 ด้วยความที่หนังต้องการปลุกปั้นอารมณ์ร่วมกับคนดู บางช่วงบางตอนก็อ้อยอิ่งไปบ้าง คนที่หวังมามันส์ก็อาจจะน็อคไปตั้งแต่ครึ่งเรื่อง กับบทสรุปตัวละครบางตัวที่ง่ายดายไปหน่อย จนคนดูซึมซับสารสำคัญที่หนังพยายามจะสื่อออกมาไม่ค่อยทัน