ที่ว่าเดินทางไม่สะดวกคือ ไม่มีรถไฟผ่าน แต่มีรถบัสวิ่งตรงจากหน้าสถานีรถไฟ ไปถึงสวนสัตว์เลย ไม่ต้องห่วงว่าไม่รู้ขึ้นลงตรงไหน เพราะคิวรอขึ้นรถยาวมากกกก แต่ไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะมีแค่ชั่วโมงละ 2 คันเหมือนในข้อมูลนะครับ ออกทีเดียวหลายคันอยู่เหมือนกัน แล้วพอถึงที่ ก็ลงกันหมดทั้งคัน ถ้าใครจะไปรอเข้าคิวเช้าๆ ก็เข้าไปถามที่ Tourist Info ในสถานีรถไฟก่อนได้ครับ ว่ารอช่องไหน ไปดูตารางเวลาพาเหรดเพนกวินด้วยครับ ไปให้พอดี พอเข้าสวนสัตว์ จุดหมายแรก จะเจอส่วนพาเหรดเพนกวินก่อนเลยครับ ถ้าใกล้เวลาแล้วก็รีบจับจองที่รอถ่ายรูปได้ (เด็กก็น่ารักไม่แพ้กัน) หลังจากนั้น แนะนำให้ข้ามไปดูโชว์หมีขั้วโลกต่อเลย เพราะคิวยาวเหมือนกัน เค้าให้เข้าเป็นรอบๆ ใครโชคดีก็ได้ที่นั่ง นั่งดูสบาย แถมเห็นมุมกว้าง แต่ผมต้องไปนั่งยองๆตรงติดกระจก ได้เห็นหมีว่ายน้ำผ่านตรงหน้าเลย แต่มุมมันแคบ ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอไม่ค่อยได้ แต่ถ้าใกล้เวลากินข้าว แนะนำให้ไปกินข้าวก่อนดีกว่านะครับ เพราะคิวตรงหมีขั้วโลกนี่รอนานจริงๆ นอกจากนี้ก็รู้สึกไม่มีที่ไหนที่ต้องเข้าคิวแล้วครับ เป็นสัตว์ในกรงธรรมดา ให้เดินชมตามอัธยาศัย สัตว์ข้างในก็จะเป็นสัตว์ที่คนในเขตร้อนอย่างเราไม่ค่อยได้เห็นกัน เดินดูก็เพลินดี จะมีตรงลิงชิมแปนซี ที่ดูไม่ค่อยมีอะไร แถมเหม็นอีกต่างหาก ข้ามไปก็ได้ มีร้านอาหารขายพวกอาหารจานเดียวอยู่ในสวนสัตว์ครับ ราคา รสชาติโอเค มีอยู่จุดเดียว ตอนเดินๆอยู่ก็เจอจุดนึง มองเห็นวิวเมืองข้างล่าง สวยดี ขากลับก็กลับมารอรถจุดเดียวกับที่มาครับ ต้องต่อคิวเหมือนกัน เพียงแต่คิวจะไม่ยาวเท่า เพราะทยอยกันกลับ แต่รถแน่นตามเคย สรุปว่าถ้ามาถึงเมืองนี้แล้ว ควรแวะเที่ยวสวนสัตว์อย่างยิ่ง แต่ถ้าจะมาเมืองนี้เพียงเพื่อมาเที่ยวสวนสัตว์นี้ผมว่าไม่ได้ขนาดนั้น