สไปเดอร์-แมน: ฟาร์ ฟรอม โฮม | Spider-man: Far from home

ในภาคที่เเล้วคือการพิสูจน์ฝีมือครั้งใหญ่ในการที่จะทำให้ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ เติบโตเป็นผู้ใหญ่พอที่จะรับผิดชอบความวุ่นวายจากเหล่าร้าย มันเลยดูเหมือนเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ไฮสคูลที่ไม่ได้มีการห้ำหั่นแบบคอขาดบาดตายอะไรมากนัก ส่วนใหญ่ตามความรู้สึกผู้เขียน มันคือการก้าวข้ามวัยเลยแหละ...



Far from home ชื่อที่สื่อถึงเนื้อหาหนังภาคนี้อีกครั้งคือการไกลบ้าน มันก็เหมือนกับสไปดี้ที่ต้องเผชิญศึกครั้งใหม่อีกครั้ง เนื้อเรื่องภาคนี้สนุกมากขึ้นครับ มันได้เห็นการจัดการชีวิตรอบตัวปีเตอร์อีกครั้ง ตั้งเเต่การตัดสินใจอะไรบางอย่างเมื่อไม่มีโทนี่ สตาร์ค ช่วยเหลือแล้ว (ยังเหลือแฮปปี้ไว้จุ้นวุ่นฮาอยู่คนนึงนะ) การไว้เนื้อเชื่อใจ จัดการกับชีวิตรักที่กำลังจะก่อตัว ...ทั้งหมดนี่ทำให้ผมรู้สึกคิดถึงสมัยโทบี้ แมคไกว ที่เราปล่อยให้เขาได้จัดการชีวิตรอบด้านเอง ในมุมที่มากขึ้น จริงจังมามากขึ้นนิดๆ ฉากแอคชั่นต่อสู้ ภาคนี้ดีมาก ตามมาตรฐานมาร์เวล ความสนุกจากมุกตลก ตัวละครปล่อยมุกก๊าก การทรีบิวต์อะไรบางอย่างยังคงลื่นไหล ปล่อยขำกันหลายละลอกและน่าจะได้ใจคนดูไปหลายๆ ฉากอยู่



ทีเด็ดจริงๆ ที่ผมชื่นชอบในภาคนี้คือการมารับบทที่ไม่รู้ว่าดีจริงหรือดีหลอก (แต่เชื่อว่าคนดูน่าจะเดาได้แล้วแหละ) ของเจค จิลเลนฮาล แกรับบทได้ดี ต้มเป็นปลาไหลเเละหัวร้อนได้อย่างที่ตัวร้ายมาร์เวลควรจะเป็น อีกทั้งดีกรีความเข้าถึงบทบาทเข้มๆ ตามสไตล์แกก็มีส่วนทำให้ตัวละครตัวนี้มีมิติความซับซ้อนมากกว่าจะร้ายทื่อๆ สามารถเป็นตัวละครที่ผมรักได้เลย เฉกเช่นกับไมเคิล คีตัน จากภาคที่เเล้ว อีกคนก็คือว่าที่เอ็มเจคนใหม่ของปีเตอร์ พาร์คเกอร์ เซนดายา ...ยอมรับเลยว่าส่วนตัวภาคที่เเล้วผมเฉยๆ กับนาง ด้วยความที่ทำตัวคอยแอบฟังไรลับๆ จากเน็ดเเละพาร์คเกอร์ พอมาภาคนี้ก็เหมือนบทส่งให้เธอสำคัญขึ้นมาอีกครั้งโดยการมีแผนจีบของทั้งคู่ เสน่ห์มันเลยเพิ่มมากขึ้นบวกกับการเอาใจช่วยมีมากกว่าจะรำคาญ ทำให้ในภาคนี้ซื้อใจผมไปได้เลยครับ

Spider-man: Far from home อีกหนึ่งหนังสนุกงานดี ใครแฟนมาร์เวล แฟนฮีโร่ คุ้มเเน่นอนกับการตีตั๋วไปชมเรื่องนี้ครับ

4/5
เนติพงษ์ สิงหะ