ในขณะที่โตเกียวเป็นเมืองของแหล่งช็อปปิ้งและตึกรางบ้านช่อง ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติและศาสนาอยู่บ้าง เช่นที่นี่ :) ศาลเจ้าเดินทางสะดวกค่ะ สามารถมาได้จากรถไฟฟ้าใต้ดิน Tokyo Metro สถานี Meijijingu-mae (สายสีเขียว Chiyoda Line สถานีที่ C03 หรือสายสีน้ำตาล Fukutoshin Line สถานีที่ F15) หรือมาด้วย JR ก็ได้ค่ะ ลงที่สถานี Harajuku ได้เลย ออกจากสถานีรถไฟแล้วก็ต้องเดินกันซักพักค่ะ กว่าจะถึงตัวศาลเจ้า ระหว่างทางเดินตั้งแต่ทางเข้าจนถึงศาลเจ้านี่จะเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ทั้งสองข้างทาง บรรยากาศร่มรื่นมากค่ะ เดินกันได้สบายๆ แต่ใช้เวลานิดนึง ช่วงที่ไปเป็นช่วงต้นปีค่ะ หลังปีใหม่ไม่กี่วัน คนมาขอพรกันเยอะมาก กว่าจะได้ไหว้นี่ต้องเข้าแถวรอกันเลย หลังไหว้พระเสร็จก็สามารถไปซื้อถุงนำโชคที่มีขายกันรอบๆศาลเจ้า หรือไม่ก็ไปเขียนป้ายขอพรกันได้ค่ะ เสร็จแล้วเราก็สามารถเดินย้อนออกมาทางเดิมไปยังสถานีรถไฟ แล้วเดินไปช็อปกันต่อที่ฮาราจูกุได้อีกเช่นกัน ยังมีอีก อ่านต่อ...
ศาลเจ้าเมจิเป็นศาลเจ้าอีกที่หนึ่งที่อยากแนะนำให้ไปเที่ยวกันค่ะ จากการไปเที่ยวศาลเจ้าเมจิมาก็ประทับใจสถานที่นี้มาก ทั้งสวยงาม ร่มรื่นและก็อากาศดี ทางเดินไปศาลเจ้ามีต้นไม้ตลอดริมทางเดินเหมาะกับการไปถ่ายรูปหรือไปเดินเล่นตอนเย็นๆ ถ้าไปขอพรที่ศาลเจ้าบางครั้งโชคดีอาจจะได้เจอพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่นที่หาเจอได้ยาก เพราะว่าศาลเจ้าแห่งนี้มีการจัดงานแต่งงานอยู่บ่อย ภายในศาลเจ้าก็มีที่ขายของที่ระลึก ที่นั่งพักผ่อน ส่วนการเดินทางไปศาลเจ้าก็สะดวกสบายสามารถเดินจากสถานีรถไฟฮาราจุกุมายังศาลเจ้าได้ แต่ก็มีข้อเสียอยู่ที่ทางเดินไปศาลเจ้าค่อนข้างไกล ถ้าหากมีผู้สูงอายุไปด้วยอาจจะเกิดความลำบาก นอกจากนั้นศาลเจ้ายังอยู่ใกล้แหล่ง Shopping อย่างฮาราจุกุ หากไปเที่ยวสามารถทั้งมาShopping และก็มาขอพรหรือเดินเล่นชื่นชมธรรมชาติได้ค่ะ ถ้าหากไปเที่ยวญี่ปุ่นก็อยากให้ไปเที่ยวกันนะคะเพราะต้นไม้ร่มรื่น สวยงาม อากาศก็ดีเหมาะมากสำหรับการไปเดินเล่นชื่นชมธรรมชาติ และก็ควรวางแผนการเดินทางให้ดีเพราะศาลเจ้าจะปิดหลังจาก 5 โมงเย็นค่ะ
ศาลเจ้าเมจิเป็นอีกสถานที่นึงในโตเกียวที่นิยมมาเที่ยวกัน นอกจากจะมาเยี่ยมชมศาลเจ้า ไหว้พระขอพรแล้ว บางครั้งถ้ามาที่นี่อาจจะเจอพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่นอีกด้วย การเดินทางเราใช้บัตรTokyo metro เลยนั่งรถไฟใต้ดินไปลง สถานี Meiji-jinkumae ออกExit 2 เดินโผล่ขึ้นมา ด้านหน้าจะเป็นถนน ทางเข้าศาลเจ้าอยู่ฝั่งด้านหลังเรา เดินไปเรื่อยๆจะเจอเสาโทริอิ (Torii) ขนาดใหญ่ ตรงทางเข้า เดินเข้ามาเรื่อยๆ เดินค่อนข้างไกลเหมือนกัน แต่เข้ามาแล้วเหมือนไม่ใช่โตเกียว คือสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เหมือนเดินอยู่กลางป่า ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแบบนี้ในโตเกียว เราไปเดือนกุมภาพันธ์ อากาศค่อนข้างหนาวเดินไกล แต่ไม่รู้สึกเหนื่อย เดินได้เรื่อยๆก็จะมาเจอถังสาเกตั้งเรียงรายเต็มไปหมด จุดนี้นักท่องเที่ยวก็ชอบมาถ่ายรูปเช่นกัน จากจุดนี้เดินต่อไปอีกกว่าจะถึงตัวศาลเจ้า ฝั่งซ้ายมือจะเป็นจุดให้ล้างมือ บ้วนปาก ชำระล้างร่างกาย ก่อนเข้าไปในศาลเจ้า พอเดินเข้ามา มองไปขวามือจะมีแผ่นไม้ห้อยเรียงรายเต็มใต้ต้นไม้ ใครที่มาเที่ยวที่นี่ก็จะนิยมเขียนขอพรลงบนอิมะ (แผ่นไม้เล็กสีน้ำตาล ราคา แผ่นละ 500 เยน) เขียนแล้วก็อธิษฐานเสร็จแล้วก็นำไปแขวนไว้ มีหลายภาษาเลยทั้งอังกฤษ ไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี แวะชอปปิ้ง ทานเครปที่ฮาราจูกุ แล้วก็สามารถแวะมาเดินเล่น ชมศาลเจ้า ขอพรกันได้ที่นี่นะคะ
