วัดแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานมากครับ ว่ากันว่าสร้างขึ้นก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเสียอีก แต่ว่าไม่ปรากฎหลักฐานชัดเจนนักในเรื่องของผู้สร้าง จึงมีแต่เพียงตำนานเล่าสืบต่อกันมาเท่านั้น วัดพนัญเชิงวรวิหารเป็นอีกหนึ่งวัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เนื่องจากอย่างที่ได้กล่าวไปว่าเป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองเลยก็ว่าได้ นอกจากนั้นวัดแห่งนี้ยังมีอะไรให้ทำมากมายที่ไม่ใช่แค่การไหว้พระ พูดภาษาบ้าน ๆ ก็คือ เป็นวัดที่ไม่น่าเบื่อ มีอะไรให้ทำเยอะ น่าจะโดนใจวัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่ครับ วัดนี้มีวิธีการทำบุญให้เราเลือกเยอะครับ ยกตัวอย่างเช่น การทำสังฆทาน ซึ่งจะมีพระสงฆ์ 1 รูปนั่งประจำอยู่ ซึ่งเราสามารถนำสังฆทานไปถวายตรงนั้นได้เลย พอท่านให้ศีลให้พรเสร็จก็จะพรมน้ำมนต์เพื่อเป็นศิริมงคลให้แก่เราครับ นอกจากการทำสังฆทานแล้วก็ยังมีการเติมน้ำมันตะเกียง ซึ่งชาวพุทธบ้างก็เชื่อกันว่าเป็นการ “สะเดาะเคราะห์และชี้ทางสว่างให้แก่ชีวิต” รวมไปถึง “ส่งเสริมดวงชะตาให้รุ่งโรจน์” บ้างก็เชื่อว่าทำให้ “มีแสงสว่างในจิตใจและสติปัญญา ความคิด เมื่อชีวิตรุ่งโรจน์โชติช่วงก็ทำให้ปัญหา อุปสรรคต่างๆ ที่ทำให้ชีวิตมืดมิดลงมลายหายไป ฐานะทางการเงินดีขึ้น เงินใช้ไม่ขาดมือ” ซึ่งก็แล้วแต่ใครจะคิดแบบไหนนะครับ ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคลละกัน นอกจากนี้ก็ยังมีการปิดทองพระพุทธรูป ไหว้พระ บริจาคเงินเหมือนวัดทั่ว ๆ ไปอีกด้วยครับ อีกสิ่งที่วัดพนัญเชิงวรวิหารค่อนข้างแตกต่างจากวัดทั่วไปก็คือ จริง ๆ แล้ววัดพนัญเชิงวรวิหารนั้นตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาครับ ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมไปปล่อยนกปล่อยปลากันที่นั่นด้วย ดังนั้นระหว่างทางไปวัดพนัญเชิงฯ เราอาจสังเกตเห็นบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่นั่งขายปลาชนิดต่าง ๆ อยู่ข้างทาง รวมถึงอาหารปลาสีสันสดใส เหตุผลก็เพราะแบบนี้แหละครับ แต่อย่างไรก็ตามครับ การช่วยชีวิตผู้อื่นเป็นเรื่องที่ดีก็จริง แต่เราก็ต้องศึกษาสัตว์แต่ละชนิดด้วยว่า สัตว์ชนิดนั้นอาศัยอยู่ในที่แบบไหน บางคนเอาเต่าบกไปปล่อยในแม่น้ำ เต่าตัวนั้นก็จะตาย การทำแบบนี้ทางพุทธศาสนาเรียกว่า “เมตตาอวิชชา...เป็นเมตตาที่ไม่ใช้ปัญญา” ดังนั้นใครที่จะไปวัดพนัญเชิงแล้วตั้งใจจะไปทำบุญปล่อยนกปล่อยปลาก็อย่าลืมศึกษาเกี่ยวกับสัตว์ที่ตัวเองจะนำไปปล่อยก่อนนะครับ