ถอดรหัสลับ อัจฉริยะพลิกโลก The Imitation Game

​

เราชอบหนังสงครามโลก เขาก็ขยันทำกันนะ เรื่องนี้เกี่ยวกับการไขรหัส enigma ของฝั่งอักษะโดยฝั่งพันธมิตร ถ้าพวกเขาไขได้ก็จะถือว่าชนะสงครามเลยด้วยซ้ำ

เรื่องนี้โดดเด่นที่การแสดงของนักแสดง ตอนท้ายเรื่องเราสัมผัสได้ถึงความอึดอัดใจของตัวอลัน ทัวริ่งที่เบเนดิกต์แสดงออกมาได้ชัดมาก เขาส่งออกมาได้ดีมากเลยนะ โดยเฉพาะภาพลักษณ์ที่ขัดกับตัวเขาที่ผ่านมาตลอดทั้งเรื่อง มันยิ่งทำให้ตอนจบยิ่งอึดอัดและเศร้าขึ้นไปอีก

ตอนม.1เราเคยโดนสั่งให้ทำรายงานอลัน ทัวริ่งนะ555 พอได้ยินว่ามีหนังของเขาเราก็สนใจมากและอยากดูมากๆด้วย เพราะเราชอบหนังสงครามโลก กำกับศิลป์สมัยสงครามโลกเป็นอะไรที่สวยมาก ยิ่งเกี่ยวกับรหัส ความลับ ยิ่งชอบเข้าไปอีก กลายเป็นว่าพอเห็นตัวอย่างก็อยากดูตั้งแต่ตอนนั้นทันที

​

ในยุคสมัยที่โลกยังไม่ยอมรับเกย์แต่เกย์ได้ช่วยโลกเอาไว้ หนังเรื่องนี้ทำให้เราอินมากขนาดไปหาข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากดูจบอีก ประมาณหนังจบอารมณ์ไม่จบ มันให้แรงบรรดาลใจดี และมันก็เสียดสีสภาพสังคมในสมัยก่อนซึ่งสมัยนี้ก็ยังเห็นนะ เรื่องนี้แฝงอะไรไว้หลายๆอย่าง

โดยรวมแล้วทั้งบท ภาพ นักแสดง และการดัดแปลงเนื้อหาจากเรื่องจริงของคนธรรมดาให้ออกมาดูได้สนุกนี่เป็นอะไรที่ดีนะ เป็นอีกเรื่องที่ควรดูเพราะนอกจากจะได้ประวัติศาสตร์จากหนังดีๆ ยังได้อะไรอีกมากมายจากเรื่องนี้ด้วย แค่ได้ดูการแสดงของเบเนดิกต์ คัมเบอร์แบชก็คุ้มแล้วล่ะมั้ง(บวกเคียร่าอีกคนด้วย555)

ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องโดยรวมอาจจะฟังแล้วดูน่าเบื่อนิดๆ แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อมากอย่างที่คิดค่ะ เรื่องนี้มีจุดสนุกอยู่หลายตอนอยู่เหมือนกัน แต่จุดที่หนังยืดเยื้อจนแอบง่วงมันก็มีอยู่หน่อยนึง

เนื้อเรื่องหลักคือตัวพระเอกเป็นคนเก่งคณิตศาสตร์มาก เลยต้องมาช่วยถอดรหัสลับของทหารเยอรมัน ซึ่งคีย์สำคัญอยู่ตรงที่ว่า รหัสลับแต่ละชุดนี้จะมีเวลาให้แค่ 24 ชั่วโมงในการถอดรหัสเท่านั้น และจะถูกเปลี่ยนการตั้งรหัสใหม่ทั้งหมด หมายความว่า หากถอดรหัสลับที่ได้มาไม่ได้ภายใน 24 ชั่วโมง ก็จะต้องเริ่มใหม่ถอดรหัสใหม่ทั้งหมดจาก 0 ... ฟังดูแล้วแอบน่าเบื่อ โปรแกรมเมอร์หลายๆคนคงเข้าใจจุดนี้55555555

บุคลิกของพระเอกจะเป็นคนอัจฉริยะ แต่กลับขวานผ่าซาก เย่อหยิ่ง ไม่สนใจสังคม แล้วก็มั่นใจในตัวเองมากจนหลายๆคนแอบไม่ชอบ แต่หากต้องมาทำงานร่วมกับผู้อื่น ก็จะมีปัญหากันบ้างในเรื่องความร่วมมือ และการรับฟังความคิดเห็น

จริงๆแล้วมันก็เป็นแค่หนังชีวประวัติที่ถูกสร้างมาจากเรื่องจริงเรื่องหนึ่งแหล่ะค่ะ แต่จุดดีของมันคือ มันให้ข้อคิดได้ดี แล้วก็ได้เห็นมุมมองจากคนๆหนึ่ง ที่พยายามทุ่มเทตัวเองเพื่อสร้างผลงานที่เป็นประโยชน์ ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยและความกดดัน นับถือพระเอกจากใจจริงเลย

เรื่องนี้ใครที่เป็นโปรแกรมเมอร์ นักคณิตศาสตร์ หรือคนที่ชอบแก้ปริศนาอาจจะชอบหรือสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ มันทำให้เราแอบลุ้นไปด้วยจริงๆนะ ในการสร้างกับแก้ไขอินิกม่าแต่ละครั้ง

ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เน้นหนักในเรื่องของความรัก แต่ก็มีแทรกไว้อีกนิดหน่อยค่ะ ต้องลองไปดูกันเนอะ ว่าพระเอกจะจัดการชีวิตของเขายังไง :)

The Imitation Game ถือเป็นหนังดีน่าบอกต่ออีกหนึ่งเรื่อง ที่เขียนบทได้ถึงใจมากๆ อาจเพราะเรื่องราวในภาพยนตร์ เป็นเรื่องที่มีเค้าโครงจากเรื่องจริง

หนังทำฉากย้อนยุคไปยุคสงครามโลก ครั้งที่สอง ได้ค่อนข้างดีทีเดียว ในหนังจะแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต การกิน การอยู่ การแต่งกาย ของผู้คนในยุคสมัยนั้นว่าใชัชีวิตกันอย่างไร และที่สำคัญยังแสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงคราม ได้อย่างเข้าอกเข้าใจทีเดียว

ในแง่ เทคนิคพิเศษ ก็มีแฝงไว้ในหลายๆตอน ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง เครื่องถอดรหัส อีนิกม่า ที่ทำได้ค่อนข้างจะสมจริงทั้งรูปแบบและกลไก

ในแง่ตัวบทถือว่าทีมงานทำการบ้านมาดี บทในเรื่องนี้จะเน้นหนักไปทางดราม่า เกือบทั้งเรื่อง มีตลกแทรกบ้างแต่โดยรวมหนังก็ไม่ได้น่าเบื่อ

นักแสดง ก็เล่นได้ดีมากๆ จนอดคคิดไม่ได้ว่า บทเดียวที่ เบเนดิก เล่นไม่ได้ น่าจะเป็นบทคนธรรมดา

สรุปในภาพรวม หากคุณชอบ หนังดราม่า หนังสงคราม หนังรัก หนังให้กำลังใจ ซึ่งเรื่องนี้รวบรวมไว้ครบ และควรค่าแกการหามาชม


ด้วยมิตรภาพ
'พล มูฟวี่ ไรเดอร์
240559
คะแแนน
10/10