"มะเร็งปากมดลูก" ถือเป็นมะเร็งระบบสืบพันธุ์เพศหญิงที่พบมากเป็นอันดับต้นๆ และเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของหญิงไทย จากสถิติเราพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีสัญญาณเตือนให้รู้ล่วงหน้า หรือบางรายแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นแต่เลือกที่จะมองข้าม เพราะกลัวการเข้าพบแพทย์ จนทำให้โรคมะเร็งนั้นได้เข้าสู่ในระยะลุกลามแล้ว การรักษาจึงเป็นไปได้ยาก มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่ทราบสาเหตุการเกิดอย่างชัดเจน โดยสาเหตุสำคัญเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) สายพันธุ์เสี่ยงสูง ซึ่งสามารถติดต่อกันได้ทางการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อนี้อยู่ หรือจากการสัมผัส โดยเชื้อไวรัสจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงเนื้อเยื่อหรือเซลล์จากปากมดลูกปกติกลายเป็นเซลล์มะเร็งปากมดลูก เเละอาจลุกลามไปบริเวณรอบข้าง เช่น ผนังช่องคลอด ตัวมดลูก เนื้อเยื่อข้างมดลูก ต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน เป็นต้น ซึ่งเมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจนกระทั่งก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้นั้น ใช้เวลานานประมาณ 5-10 ปี นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น เช่น มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ มีคู่นอนหลายคน สูบบุหรี่หรือคนรอบข้างสูบบุหรี่ อาการแสดงของ “มะเร็งปากมดลูก” จะมีอาการผิดปกติในมะเร็งระยะลุกลามเท่านั้น เช่น มีตกขาวผิดปกติ เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ประจำเดือนมามาก มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อค้นหาสตรีที่มีความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกในระยะก่อนมะเร็ง หรือ มะเร็งในระยะต้น ปัจจุบันการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่ถือว่ามีความแม่นยำสูง ได้แก่ การตรวจทางเซลล์วิทยา (Pap smear, Liquid base cytology) และการตรวจหาไวรัส HPV การรักษา “มะเร็งปากมดลูก” มะเร็งในทุกระยะสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เป้าหมายในการรักษาจะแต่แตกต่างกันในแต่ละระยะ ระยะ 1 และ 2 (ขั้นต้น) ผู้ป่วยจะได้เข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดเอาตัวต้นต่อของมะเร็งออก หรือที่เรียกว่าแบบ "ถอนรากถอนโคน" ทำให้มีโอกาสหายมากขึ้น และโอกาสที่จะกลับไปเป็นซ้ำ หรือการกระจายของเชื้อมะเร็งก็จะน้อยลง ปัจจุบันได้มีการพัฒนาการรักษามะเร็งปากมดลูก สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดมดลูกผ่านกล้องได้ ซึ่งเราอาจจะเคยได้ยินในเรื่องของแผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวได้ไว การผ่าตัดผ่านกล้องทำให้สามารถมองเห็นรอยโรคได้อย่างชัดเจนเห็นอวัยวะต่างๆ ได้อย่างชัดเจนทำให้การผ่าตัดปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น ระยะ 3 และ 4 เป็นระยะที่มะเร็งลุกลามออกนอกปากมดลูกแล้ว ดังนั้นจะเป็นแนวทางการรักษาแบบประคับประคองประกอบด้วยเคมีบำบัดร่วมกับรังสีรักษาในเวลาเดียวกัน เพื่อควบคุมไม่ให้มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะใกล้เคียงและเนื้อเยื่อชั้นในรอบๆ มดลูก การป้องกัน “มะเร็งปากมดลูก” มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งชนิดแรกที่มีการนำวัคซีนมาใช้ในการป้องกันโรค ได้แก่ วัคซีนป้องกันไวรัส HPV โดยวัคซีนชนิดนี้จะป้องกันการติดเชื้อ ไวรัส HPV สายพันธุ์ที่ 16,18 ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดมะเร็งปากมดลูกถึง 70% ดังนั้น จากการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ และการรับวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความไม่ประมาทแนะนำให้สตรีไทยที่มีอายุมากกว่า 21 ปี เข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูกอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ขอบคุณข้อมูล : นายแพทย์ศุภชัย เรืองแก้วมณี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านมะเร็งทางนรีเวช และการผ่าตัดผ่านกล้อง โรงพยาบาลนนทเวช มะเร็งปากมดลูก มะเร็งทางนรีเวชภัยร้ายที่ผู้หญิงควรรู้..| รพ. นนทเวช