1. นี่มันเว็บอะไรกัน??? ทำความรู้จักคร่าวๆกับ รีวิวบุรี คลิกเลย

The Martian กู้ตาย 140 ล้านไมล์

คะแนนเฉลี่ย:
5/5,
คำบรรยาย:
The Martian คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างภารกิจเดินทางสู่ดาวอังคาร มนุษย์อวกาศ มาร์ แวทนีย์ ถูกคิดว่าเสียชีวิตหลังเกิดพายุรุนแรงและถูกทีมงานทิ้งไว้ แต่แวทนีย์กลับรอดชีวิตและพบว่าตัวเองอยู่อย่างโดดเดี่ยวลำพังบนดวงดาวที่โหดร้าย เขามีเพียงเสบียงอันน้อยนิด แวทนีย์ต้องใช้ความฉลาด ไหวพริบ และความมุ่งมั่นเพื่อการอยู่รอดและหาทางส่งสัญญาณกลับมายังโลกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ จากระยะทางที่ไกลนับหลายล้านไมล์ นาซ่าและทีมนักวิทยาศาสตร์จากนานาชาติต่างพยายามนำ "เดอะ มาร์เชียน" กลับบ้าน

แบ่งปันหน้านี้

คุณล่ะ? ให้กี่ดาว เลือกเลย ➜:
/5,
  1. trebeilnahoj
    ให้คะแนน:
    5/5,
    (สุดยอด)
    [​IMG]
    หลังจากปีก่อนหน้านั้นมีหนังไซไฟอวกาศออกมาแล้วอย่าง Interstellar ปีต่อมาก็จ่อคิวต่อเลยด้วย The Martian ตอนนั้นเราก็แบบ มาค่ะ เราพร้อม กำลังไฮป์หนังไซไฟอวกาศพอดี555

    เรื่องนี้โผล่มาปังๆๆด้วยทีมนักแสดงนำแต่ละคนที่โคตรแม่เหล็ก คือเชื่อว่าตัวละครนำทุกตัวมีหนังที่ตัวเองเด่นและเป็นที่รู้จักกันอยู่แล้ว แต่พอมาอยู่รวมกันกลับไม่แย่งซีนกันและกลายเป็นความลงตัวอย่างถึงที่สุดและดึงให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจขึ้นไปอีก

    เรื่องราวของวัตนีย์ นักบินอวกาศและนักวิทยาศาสตร์ที่ดันติดอยู่บนดาวอังคารคนเดียวเพราะทุกคนคิดว่าเขาตายไปแล้ว เขาต้องใช้ความรู้ที่เขามีเอาชีวิตรอดบนดาวดวงนั้นและรอวันที่จะมีคนมารับเขา เอาจริงๆแค่เนื้อเรื่องก็โคตรของโคตรน่าสนใจแล้ว บวกทีมนักแสดงน่าสนใจอย่างที่เราบอกไปอีก คือไม่ดูนี่ถือว่าพลาดสุดๆแล้ว

    ตอนเราดูเราตั้งคำถามตลอดเลยนะว่าเป็นไปได้เหรอวะ ใช่เหรอวะ จริงเหรอวะ แต่ในหนังมันทำให้ดูเป็นไปได้จริงๆนะ ยิ่งพอดูจบแล้วรู้ว่าคนเขียนนิยายของเรื่องนี้ก็นักวิทยาศาสตร์นั่นแหละเพราะงั้นความรู้เขาที่เอามาแต่งไม่ได้โม้ๆขึ้นมานะค้าา สามารถทำได้จริงๆ อย่างตอนช่วงสุดท้ายโคตรไอรอนแมนเราสงสัยมากว่าเห้ย เว่อเกินไปป่าววะ555 แต่พอได้คุยได้ถกกับเพื่อนวิทยาศาสตร์คนหนึ่งก็พบว่ามันเป็นไปได้นะ แล้วกลายเป็นว่าเรื่องนี้มีความเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์มากกว่า Interstellar เสียอีก (ส่วนตัวมองว่า Interstellar พูดถึงหลักการความเป็นไปได้ ที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ 100% เรื่องนี้ที่เขียนขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่พูดถึงหลักการต่างๆทางวิทยาศาสตร์เลยเป็นจริงมากกว่า)

    [​IMG]
    หนังเรื่องนี้มีความสนุก ความตลก และที่สำคัญเราจะได้เห็นการเอาตัวรอดโดยใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ การสื่อสารหลักการต่างๆที่ดูเสร็จโคตรเป็นความรู้ เป็นความรู้ที่แฝงมาแล้วเราดูสนุกดูเพลินไปด้วย เหมือนเป็สารคดีวิทยาศาสตร์กลายๆเลยนะจริงๆแล้ว คือเรื่องนี้สนุกจริงๆและเราคิดว่าทุกคนดูได้สนุก เพราะมันไม่ใช่หนังอาร์ตหนังปรัชญา แต่มันคือหนังดีที่เป็นแนวที่ทุกคนจะชอบได้จริงๆ ใครยังไม่ได้ไปดูก็รีบดูเถอะค่ะ
  2. PolMovieRider
    ให้คะแนน:
    5/5,
    (สุดยอด)
    "The Martian กู้ตาย 140 ล้านไมล์"
    ข้อเด่น - สร้างแรงบันดาลใจ สอนให้ไม่ยอมแพ้ และสอนให้มีสติกับทุกสถานการณ์
    ข้อด้อย - พระเอกเก่งเกินไป(หรือเปล่า) ดูอะไรๆจะลงตัวไปหมด 5555
    ความรู้สึกแรกที่ได้ดูหนังเรื่องนี้คือ อดคิดถึงหนังเรื่อง CAST AWAY ไม่ได้ เพราะเป็นการที่ต้องอยู่คนเดียวของตัวละครนำเช่นกัน ต่างกันก็แค่ คนนึง อยู่บนเกาะกลางทะเล กับ อีกคน อยู่บนดาวกลางอวกาศ

    เดอะ มาร์เชียน หรือ แปลตรงๆว่าชาวดาวอังคารนั้น เป็นหนังน้ำดี ที่สอนเราได้หลายๆเรื่อง สิ่งที่เห็นได้ชัดมากๆและคิดว่าเป็น สิ่งนำเสนอหลักของเรื่องคือ สติ

    ลองคิดดูว่าถ้าเราต้องติดอยู่คนเดียวบนดาวอังคารซึ่งห่างจากโลก หลายล้านไมล์ แถมแทบไม่มีความหวังอะไรเลย เราจะเอาตัวรอดได้อย่างๆไร

    สิ่งที่พระเอกทำคือ ตั้งสติ และหาหนทางในการอยู่รอดให้ได้ก่อน แล้วค่อยคิดเรื่องกลับบ้าน

    อีกอย่างที่หนังเรื่องนี้นำเสนอคือ การร่วมมือร่วมใจกันของทั้ง คนในทีม คนในนาซ่า คนในประเทศ และแม้คนในต่างประเทศ ที่ทั้งช่วยหาวิธี ทั้งช่วยส่งกำลังใจ ให้มนุษย์โลกคนหนึ่งได้กลับบ้าน

    ในชีวิตคนเรา มีปัญหาให้แก้มากมายหลายเรื่อง บางเรื่องแก้ได้ บางเรื่องแก้ไม่ได้

    เดอะ มาร์เชียน เป็นหนังอีกเรื่อง ที่แสดงให้เห็นว่า ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรไม่สำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือ

    เราสู้เต็มที่หรือยัง

    ด้วยมิตรภาพ
    'พล มูฟวี่ ไรเดอร์
    130259

    คะแนน
    10/10

    ช่องทางการรับชม
    มีแผ่นขายแล้วครับ
  3. Mr.001
    ให้คะแนน:
    5/5,
    (สุดยอด)
    "สุดยอดภาพยนต์แห่งปี 2015"
    ข้อเด่น - สร้างแรงบันดาลใจ ตัวอย่างของการไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค์
    งานถ่ายทำยอดเยี่ยม ภาพสวย
    ข้อด้อย - ถ้าบิ้วอารมณ์ได้มากกว่านี้ก็จะดี
    ผมอาจไม่ได้ดูหนังมากมายอะไร แต่ในบรรดาหนังในปี 2015 ที่บังเอิญได้ดู ผมยกให้เรื่องนี้เป็นอันดับ 1 เลยครับ

    ถ้าพูดถึงความสนุกของเรื่องนี้ ก็มาจากการที่ได้คอยเอาใจช่วยพระเอกว่าจะมีวิธีเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ที่แทบจะสิ้นหวัง คือโดนทิ้งอยู่บนดาวอังคารคนเดียว และมีทรัพยากรที่จำกัดอยู่ได้อีกเพียงไม่นาน สื่อสารกับใครก็ไม่ได้เลย ใครๆก็คิดว่าเขาตายไปแล้ว (แปลว่าจะไม่มีทีมมาช่วยเหลือ) แต่เขาก็ค่อยๆแก้ปัญหาไปทีละเปราะ และพอถึงตอนจบ เราก็จะเข้าใจถึงสิ่งที่หนังเรื่องนี้พยายามจะสื่อ ที่จริงเรื่องของ ดาวอังคาร ทีมสำรวจ อวกาศ นาซ่า พวกนี้เป็นเสมือนแค่บรรจุภัณฑ์สวยๆ ที่ใช้ในการส่งต่อ "ของมีค่า" ชิ้นหนึ่งมาให้ผู้ชม นั่นคือ "แรงบันดาลใจ" ว่า "อย่ายอมแพ้" ไม่ว่าอุปสรรคนั้นจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม อยากให้ทุกคนตั้งใจฟังคำพูดของตัวละครในตอนจบให้ดี (ในคลาสเรียนของนักบินอวกาศ) สรุปสิ่งนี้ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

    การจบของเรื่องก็เป็นการจบที่น่าประทับใจครับ โดยปกติหนังที่จบดี หายากครับ ส่วนใหญ่ตอนจบมักจะเป็นส่วนที่โดนหักคะแนน แต่เรื่องนี้จบได้แบบลุ้นสนุกมาก

    สิ่งเล็กๆน้อยๆ อีกเรื่องที่ผมสังเกตเห็นและชอบมาก คือ การที่เขียนบทให้องค์การอวกาศของจีนยื่นมือเข้ามาช่วยด้วย รวมถึงภาพคนจีนมากมายที่ร่วมลุ้นเอาใจช่วย มันสะท้อนถึงมุมมองของคนอเมริกัน (หรืออย่างน้อยก็ผู้สร้างหนัง) ต่อจีน หรือคนอื่นที่แตกต่างจากตน ที่เริ่มเป็นไปในทางบวกมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น

    โดยสรุปแล้ว เรื่องนี้ "ต้องดู" ครับ

คุณล่ะ? ให้กี่ดาว เลือกเลย ➜:
/5,

แบ่งปันหน้านี้