1. นี่มันเว็บอะไรกัน??? ทำความรู้จักคร่าวๆกับ รีวิวบุรี คลิกเลย

The Big Short: เกมฉวยโอกาสรวย

คะแนนเฉลี่ย:
4/5,
คำบรรยาย:
The Big Short บอกเล่าเรื่องราวของบุคคล 4 คนที่เข้ามาพัวพันกันหลังจากมองเห็นช่องโหว่ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กำลังจะประสบกับวิกฤติอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อฟองสบู่ ในขณะที่รัฐบาล และสื่อ กลับมองไม่เห็น พวกเขาเกิดไอเดียในการลงทุน ที่ทำให้จมดิ่งลึกเข้าไปในระบบธนาคารสมัยใหม่ที่ทำให้เขาต้องตั้งคำถามกับทุกคนและทุกอย่าง

แบ่งปันหน้านี้

คุณล่ะ? ให้กี่ดาว เลือกเลย ➜:
/5,
  1. trebeilnahoj
    ให้คะแนน:
    4/5,
    (แนะนำ)
    [​IMG]
    เราเข้าไปดูเรื่องนี้เพราะนักแสดงล้วนๆค่ะ ทั้งไรอัน กอสลิ่ง, คริสเตียน เบล, สตีฟ คาเรลล์, แบรด พิตต์ คือเหมือนรวมดาวเด่นตัวเรียกแขกไว้ ยิ่งเห็นว่าเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของวิกฤติเศรษฐกิจอเมริกาเมื่อประมาณ 6-7 ปีก่อนยิ่งเพิ่มความน่าดูขึ้นไปอีก เพราะเราค่อนข้างสนใจในด้านนี้

    ถ้าคุณดูเรื่องนี้แล้วงงกับทุกสิ่งที่วิ่งผ่านเข้ามาในสมองคุณไม่ใช่คนเดียวค่ะ555 เรายอมรับเลยว่าพื้นฐานเศรษฐศาสตร์เราน้อยมาก ยิ่งศัพท์เฉพาะหรืออะไรนี่ไม่รู้เลย ส่วนตัวคิดว่านี่เหมือนเป็นสารคดีให้ความรู้ซะมากกว่า แต่น่าแปลกที่การอธิบายหลักเศรษฐกิจไดอะล็อคยาวยืดกลับไม่น่าเบื่อ ปกติถ้าสมองคนเราโดนยัดข้อมูลขนาดนี้เราว่าเราขอบายโลกนอนหลับไปแล้ว555 แต่เรื่องนี้ดีตรงการตัดต่อและองค์ประกอบของภาพที่เพิ่มความน่าสนใจในเนื้อหาที่ตัวละครอธิบาย ถึงแม้มันจะยากมากสำหรับเราก็เถอะ555

    เรื่องนี้ตื่นเต้นนะ มันไม่ใช่สารคดีสิ้นเชิง คือมันเหมือนตรงให้ความรู้ แต่มันไม่ได้ฉายภาพฟุตเทจหรือพยายามมีเสียงพากย์ทุ้มๆที่ให้ความรู้สึกหม่นๆ เราว่าเรื่องนี้ทำออกมาในแนวตื่นเต้น แนวกระทืบปัญหา ไม่ใช่มองย้อนปัญหา เหมือนกลุ่มเพื่อนคุยถกกันว่าอะไรทำให้เกิดปัญหาไม่ใช่ผู้ปกครอบจับกลุ่มคุยกันย้อนดูว่าอะไรทำให้ลูกเรามีปัญหา (?) และยิ่งนักแสดงแต่ละตัวมีเอกลักษณ์และน่าจดจำ รวมถึงยังถ่ายทอดตัวะครของตัวเองออกมาได้ดีอีกด้วย

    [​IMG]
    ถึงแม้ทฤษฎีในเรื่องนี้จะอัดแน่นมากก็จริง แต่คือมันเป็นอะไรที่ดูสนุก ยิ่งเหตุการณ์แบ่งมองมาจากหลายๆฝ่ายหลายๆอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก็ยิ่งทำให้เราสนใจในมุมมองของแต่ละคน สำหรับเราถึงเราจะไม่เข้าใจเนื้อหาไปเกือบครึ่ง แต่ส่วนอื่นในเรื่องก็ทำให้เราเอนจอยกับหนังมากๆ และเราคิดว่าถ้าใครยิ่งสนใจเรื่องพวกนี้น่าจะดูสนุกและอิน แบบดูจบต้องหาเพื่อนพูดคุยถกประเด็นในเรื่องแน่นอน

    ก็อยากให้เคลียร์สมองก่อนดูนะคะ แล้วก็บางทีถ้า catch up ไม่ทันก็...ปล่อยมันไปเถอะค่ะ555 รับอารมณ์หนังอย่างเดียวละกันเนอะ
  2. ipae.
    ให้คะแนน:
    4/5,
    (แนะนำ)
    "ตลกร้ายของทุนนิยมอเมริกา"
    ข้อเด่น - เดินเรื่องไว
    อธิบายบางศัพท์ให้เข้าใจง่าย
    ข้อด้อย - มีศัพท์เข้าใจง่ายก็จริง แต่ศึกษาก่อนบ้างจะทำให้ดูสนุกขึ้น
    **หมายเหตุ: รีวิวนี้อ้างอิงจากพื้นฐานสติปัญญาและความอ่อนเลขของผู้รีวิวนะจ๊ะ
    The Big Short สร้างมาจากเรื่องจริงของวิกฤติการณ์ทางการเงินของอเมริกาในช่วงปี 2007-2008 หรือภาษาบ้านๆที่เรารู้จักกันดีคือ Hamburger Crisis (วิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์) ที่ทำให้เศรษฐกิจพังครืนไปทั่วโลก

    (เข้าใจคร่าวๆว่าวิกฤติการณ์แฮมเบอร์เกอร์คือ การที่ธนาคารปล่อยให้กู้บ้านง่ายมากๆ ง่ายเว่อร์ๆ จนไม่ได้ตรวจสอบว่าผู้ซื้อกำลังทรัพย์พอมั้ย เมื่อจ่ายไม่ได้ก็เป็นหนี้ และเกิดหนี้สูญ หมายถึงหนี้ที่ไม่ได้รับการชำระ พอทบกันมากๆเข้าก็ บูม! เศรษฐกิจด้านอื่นๆรวนไปหมด ทั้งตกงาน ไม่มีที่อยู่ และบางคนฆ่าตัวตาย)

    หนังจะดำเนินเรื่องอยู่ในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์แฮมเบอร์เกอร์ขึ้น โดยเล่าผ่านกลุ่มคน 4 กลุ่มนั่นคือ

    1. ดร.ไมเคิล เบอร์รี่ (คริสเตียน เบลล์) ผู้บริหารกองทุนโคตรอัจฉริยะ คิดอะไรแม่นยำ มีตรรกกะ แต่มนุษยสัมพันธ์แย่ เข้าสังคมไม่ได้
    2. มาร์ค บาม (สตีฟ คาร์เรล) ผู้จัดการกองทุนหัวร้อน สายดาร์ค อยากทำอะไรก็ทำ พูดอะไรก็พูด แต่ในขณะเดียวกันก็มีปมในใจ
    3. จาเร็ต เวนเน็ตต์ (ไรอัน กลอสลิ่ง) เทรดเดอร์ชอบเสี่ยง ที่สนใจเรื่องที่ดร.ไมเคิล ซื้อชอร์ตเข้า
    4. เบน ริกเก็ต (แบรด พิตต์) นายธนาคารที่วางมือจากวงการ ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างสงบ แต่กลับมาทำงานอีกครั้งเพราะเห็นแก่ ชาร์ลี และเจมี่ เพื่อนบ้านคู่หูนักลงทุนมือใหม่


    ในขณะที่ผู้คนในวงการการเงินอเมริกากำลังหลงระเริงกับค่าคอมมิชชั่น และอัตราการซื้อที่สูงขึ้น คนทั้ง 4 กลุ่มนี้แหละ ที่เริ่มเอะใจว่ามันมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล เลยลงมือสืบหาคำตอบ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไรกันแน่

    ถึงจะเป็น Drama-Comedy แต่ว่า The Big Short ก็เป็นหนังเศรษศาสตร์-การเงิน เพราะฉะนั้น ภาษาที่ใช้ ถามว่ายากมั้ย? ไม่ค่อย แต่ถ้าถามว่างงมั้ย งงมากกกกกกกกกกกกกก
    แต่ถึงแม้ว่าจะงงมาก ศัพท์บางคำที่โผล่ในหนังบ่อยๆ เค้าก็เลือกนำเสนอได้ค่อนข้างดีและยียวนกวนประสาทไม่น้อย ไม่ว่าจะเอาดาราดังมาอธิบาย เปรียบเทียบเรื่องการเงินกับอาหาร ทำให้เราพอเข้าใจขึ้นมาพอสมควรเลยทีเดียว
    จังหวะการเล่าเรื่องของหนัง ถือว่าถูกใจมากสำหรับเรา หนังเข้าใจยาก แต่ไม่ได้เดินเรื่องน่าเบื่อ ถึงหนังจะมีความยาวสองชั่วโมงนิดๆ แต่ก็ไม่ได้เวิ่นเว้ออะไรมากมาย เรากลับคิดว่าถ้าสั้นกว่านี้คงอธิบายสาระต่างๆไม่ครบซะอีก
    เพลงในเรื่องก็เป็นอีกอย่างที่ชอบ ชอบการเอา MV เพลงมาใส่ในฉากหนังซะดื้อๆ แต่แปลกที่มันเข้ากับเรื่องได้อย่างไม่น่าเชื่อ อันนี้ชอบส่วนตัวจริงๆ
    และที่ชอบที่สุดคือ ถึงแม้จะเป็นหนังการเงิน ที่มีนักลงทุน นายธนาคารแก่ๆเต็มไปหมด แต่หนังเรื่องนี้มันส์กว่าที่คิดนะ ขนคำสบถมาเยอะมาก ลบภาพความสุภาพ สุขุมนุ่มลึกอะไรงี้ไปเยอะเลย 55555

    ถ้าถามว่าให้คะแนนเท่าไหร่ ให้ 7/10 อีกสามคะแนนตัดออกเพราะสติปัญญาไม่ถึง..
    ถ้าจะดูให้สนุก ลองหาข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับพวกวิกฤติสินเชื่อ ซับไพร์ม กองทุนรวม พันธบัตร บลาๆ ก่อนดู น่าจะทำให้ดูสนุกมากขึ้น เพราะเราดูจบแบบมันๆปนงงๆ พอจบเลยต้องมาหาข้อมูลเพิ่มเยอะมากกก กว่าจะเข้าใจ
คุณล่ะ? ให้กี่ดาว เลือกเลย ➜:
/5,

แบ่งปันหน้านี้