Guardians of the Galaxy (2014) รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล

เริ่มต้นเรื่องมา ตอนแรกก็นึกว่าจะเป็นหนังดราม่าไซไฟ ต่อสู้กัน เน้นโชว์ CG คิดไว้ว่าไม่น่าจะมีอะไรแตกต่างจากเรื่องอื่นๆซักเท่าไหร่ แต่พอดำเนินเรื่องไปได้แค่ซักพักนึง ก็เริ่มรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้มันมีอะไรมากกว่าที่คิดไว้มากๆเลย

โดยรวมเรื่องก็ออกแนวต่อสู้ตะลุยไปทั่วอวกาศ เพื่อปกป้องจักรวาล แต่ว่าจุดที่ทำให้ชอบเรื่องนี้สุดๆเลย คือความตลกที่ซ่อนไว้ในหลายๆฉาก ซึ่งตัวละครหลักๆของเรื่องก็จะมีอยู่ 5 คนค่ะ ปีเตอร์ ควิลล์ (สตาร์ลอร์ด), กาโมร่า (หญิงสาวผิวสีเขียว), กรู้ท (ต้นไม้), ร็อคเก็ต (แร็คคูน), และแดร็ก (ชายหุ่นล่ำแต่ซื่อบื้อ) แต่ละคนก็จะมีคาแรกเตอร์ที่ต่างกันออกไป ทั้งเรื่องตบมุขกันได้สนุกมากค่ะ เกรียนกันทั้งทีม5555555

เป็นหนังฮีโร่ที่ฮีโร่ไม่ได้เป็นคนดีไปซะหมด มีทั้งหัวขโมย นักฆ่า จอมบ้าพลัง ก็เลยดูเหมือนเป็นกลุ่มคนธรรมดาที่ได้มารวมตัวกันโดยบังเอิญเพื่อที่จะช่วยเหลือจักรวาล ไม่ใช่ฮีโร่ผู้พิทักษ์เหมือนหนังฮีโร่หลายๆเรื่อง

ส่วนเรื่องฉากแอ็คชั่น อาจจะไม่ได้อยู่ในขั้นลุ้นตัวไม่ติดเก้าอี้ แต่จะออกแนวดูได้สบายๆ ไม่กดดัน สนุกไปอีกแบบค่ะ ในส่วนของ CG ก็ทำออกมาได้สวยงามค่ะ โดยเฉพาะช่วงขับยานต่อสู้กัน

เนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้แน่นขนาดว่าดูแล้วทึ่ง แต่ตัวละครทำให้เรื่องนี้ดูน่าจดจำและแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ รับรองว่าสนุก ไม่ผิดหวังค่ะ

หนังภาค 2 จะได้เข้าฉายสิ้นเดือนเมษายนนี้แล้วเลยขอหยิบมันมาดูอีกรอบ ...ตอนที่เข้าโรงใหม่ๆ จำได้ว่าเป็นหนังฮีโร่จากมาร์เวลอีกเรื่องที่ชอบและโปรดปรานมาก สไตล์อันโดดเด่นของมันก็แพรวพราวไปทั่วหนัง ตั้งแต่ที่


ตัวละครนำทั้ง 5 ของเรื่องไม่ได้มีความเนี้ยบหรือเอกลักษณ์อย่างที่ฮีโร่จาก เรื่องอื่นๆ ควรจะเป็นกัน มันมีทั้งความถ่อย ความร้ายกาจ ไม่ลงรอยแต่ก็สามารถทำให้คนดูเอาใจช่วยและสามารถหลงรักตัวละครเหล่านี้ได้ แม้จะไม่ใช่ฮีโร่ที่แสนดี 100 เปอร์เซ็นต์ การเล่าเรื่องที่ไม่เน้นความเคร่งขรึมหรือจริงจังจนเข้าโหมดดาร์คแบบหนังฮีโร่สายเนี้ยบเรื่องอื่นๆ มันมีทั้งความบ้า ความระห่ำ ความตลกโปกฮาที่เกลื่อนกลาดไปทั่ว มุกสารพัดมุกที่หนังขยันเล่น ขยันอำ ทำให้หนังดูสนุกมากขึ้นและมีความกวนนิดๆ ในแบบเอกลักษณ์เฉพาะตัว ...คือหนังฮีโร่เรื่องอื่นๆ ก็สามารถมีอารมณ์ขันได้ แต่จะหาการปูเรื่องตัวละครที่เถื่อน ถ่อยและบ้าระห่ำเช่นนี้ ต้องอาศัยการควบคุมโทนหนังที่ดี คืออาจไม่ต้องตลกโปกฮาในระดับเกินขีด แต่สามารถมีเรื่องราวซับพอร์ตที่น่าเชื่อและสามารถสะเทือนอารมณ์คนดูได้ ...อยู่ในระดับที่ทีเล่นทีจริง แต่ก็มีหยอดมุกบ้าง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพลงประกอบภาพยนตร์ที่คัดเลือกมาใส่ไว้ในหนังเรื่องนี้ก็เพราะแทบทุกเพลง คือทุกเพลงในยุค 70s-80s เหมือนถูกคัดมาแล้วจริงๆ ครับ เพราะและมีความหมายต่อหนังทุกเพลงในทุกๆ ฉากเลยครับ



ดารานำก็เล่นกันแบบลื่นไหล หยอดมุกตลกหรือมีท่าทีที่แสบกวนกันแบบสไตล์ใครสไตล์มันเลยครับ คนที่แจ้งเกิดจากงานนี้เต็มๆ ก็คงจะเป็นคริส แพร็ต ที่สลัดจากพระเอกรองตัวโจ๊กมาเป็นพระเอกฮีโร่เนื้อหอมได้ในทันทีเลยครับ

เพราะฉะนั้นแล้ว ภาคสองที่กำลังจะลงโรงมานี่ก็คิดว่า ยังไงก็ต้องตีตั๋วไปชมอย่างแน่นอนครับ เพราะขนาดภาคแรกนั้นเป็นได้ทั้งหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ตลกโปกฮา บ้าบิ่น ไม่เหมือนใครและมันส์กับฉากแอ๊คชั่น ฉากการต่อสู้ที่ดุเดือดไม่แพ้หนังมาร์เวลเรื่องอื่นๆ เลย... ใครยังไม่เคยดูภาคแรกก็น่าจะลองหามาดูครับ เป็นหนังฮีโร่ที่สร้างสรรค์และขำกระจายไปในเวลาเดียวกัน รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนแฟนมาร์เวล

8/10
เนติพงษ์ สิงหะ