ข้อเด่น - เหมือนมีเวทมนต์ให้ตัดใจทิ้งของไม่จำเป็นได้ง่ายขึ้น
ข้อด้อย - หลายประเด็นทำตามได้ยาก
ช่วงที่หนังสือเล่มนี้วางแผงใหม่ๆ ผมมองแล้วก็เดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว คำว่า "จัดบ้าน" มันทำให้โยงไปว่าเป็นหนังสือสำหรับ "แม่บ้าน" แมนๆอย่างผม ซื้อไปนี่เสีย self หมด (แม้ว่าจริงๆแล้วก็รำคาญห้องรกๆของตัวเองอยู่ก็ตาม) แต่ทุกครั้งที่เดินผ่านผมก็ต้องหยุดมองมันทุกที เพราะคำว่า "ชีวิตดีขึ้นทุกๆด้าน" นี่เอง สุดท้ายก็ลองซื้อมาอ่านดู
ประโยชน์แรกที่พบคือ อ่านแล้วเหมือนต้องมนต์สะกด อะไรที่เมื่อก่อนเสียดาย ทิ้งไม่ลง ตอนนี้เอาบริจาคไปบ้าง ทิ้งไปบ้าง เยอะเลย
นอกจากนี้ปรัชญาในหนังสือยังนำมาใช้กับชีวิตในด้านอื่นได้ด้วย เช่น ทรัพย์สินบางอย่างที่มันไม่ก่อให้เกิดรายได้ มีแต่จะทำให้เปลืองค่าดูแลรักษาไปเรื่อยๆ ผมก็เริ่มตัดใจขายทิ้งไปบ้าง
แต่ถามว่าชีวิตเปลี่ยนมั๊ย มันก็คล้ายๆเดิมแหละครับ ไม่ได้ไปไหนไกล (ได้ข้อคิดในการใช้ชีวิตเพิ่มนิดหน่อย) ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่สามารถทำตามที่หนังสือ 100% เพราะเป็นการจัดบ้านแนวฮาร์ดคอร์จริงๆ
ฮาร์ดคอร์อย่างไง? ยกตัวอย่างเช่น เค้าจะบอกว่าให้เอาของในหมวดเดียวกันทั้งบ้าน (ขอย้ำว่าทั้งบ้านจริงๆ ไม่ให้ทำทีละห้อง) ลงมากองรวมกันให้หมด ไม่มียกเว้นแม้แต่ชิ้นเดียว จากนั้นให้เลือกเอาเฉพาะชิ้นที่ต้องการขึ้นมา ที่เหลือทิ้งหมด โหดมั๊ยล่ะ
ยังไม่พอ วิธีการที่จะเลือกว่าเอาชิ้นไหน สมมติว่าเป็นหนังสือ เค้าบอกว่าไม่ให้เปิดดูนะ ให้จับขึ้นมา หลับตา แล้วถ้าสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ดีถึงเอาเก็บไว้ เอ่อ...พอดีจิตสัมผัสผมยังไม่กล้าแข็งขนาดนั้นอ่ะครับ ผมก็ต้องเลือกเล่มที่คิดว่าอาจจะยังมีประโยชน์ในอนาคตเก็บไว้แทน
แม้ว่าแนวทางบางอย่างอาจเกินเลยไปบ้างสำหรับปุถุชนธรรมดาอย่างเรา แต่โดยสรุปแล้วผมก็ได้แรงบันดาลใจ และกำจัดข้าวของที่รกรุงรังออกไปจากชีวิตได้เยอะมากเหมือนกันครับ ดังนั้นแนะนำครับสำหรับหนังสือเล่มนี้ ชีวิตอาจไม่ดีขึ้นทุกด้านเหมือนชื่อหนังสือ แต่อย่างน้อยก็น่าจะดีขึ้นซักด้านนะครับ
ประโยชน์แรกที่พบคือ อ่านแล้วเหมือนต้องมนต์สะกด อะไรที่เมื่อก่อนเสียดาย ทิ้งไม่ลง ตอนนี้เอาบริจาคไปบ้าง ทิ้งไปบ้าง เยอะเลย
นอกจากนี้ปรัชญาในหนังสือยังนำมาใช้กับชีวิตในด้านอื่นได้ด้วย เช่น ทรัพย์สินบางอย่างที่มันไม่ก่อให้เกิดรายได้ มีแต่จะทำให้เปลืองค่าดูแลรักษาไปเรื่อยๆ ผมก็เริ่มตัดใจขายทิ้งไปบ้าง
แต่ถามว่าชีวิตเปลี่ยนมั๊ย มันก็คล้ายๆเดิมแหละครับ ไม่ได้ไปไหนไกล (ได้ข้อคิดในการใช้ชีวิตเพิ่มนิดหน่อย) ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่สามารถทำตามที่หนังสือ 100% เพราะเป็นการจัดบ้านแนวฮาร์ดคอร์จริงๆ
ฮาร์ดคอร์อย่างไง? ยกตัวอย่างเช่น เค้าจะบอกว่าให้เอาของในหมวดเดียวกันทั้งบ้าน (ขอย้ำว่าทั้งบ้านจริงๆ ไม่ให้ทำทีละห้อง) ลงมากองรวมกันให้หมด ไม่มียกเว้นแม้แต่ชิ้นเดียว จากนั้นให้เลือกเอาเฉพาะชิ้นที่ต้องการขึ้นมา ที่เหลือทิ้งหมด โหดมั๊ยล่ะ
ยังไม่พอ วิธีการที่จะเลือกว่าเอาชิ้นไหน สมมติว่าเป็นหนังสือ เค้าบอกว่าไม่ให้เปิดดูนะ ให้จับขึ้นมา หลับตา แล้วถ้าสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ดีถึงเอาเก็บไว้ เอ่อ...พอดีจิตสัมผัสผมยังไม่กล้าแข็งขนาดนั้นอ่ะครับ ผมก็ต้องเลือกเล่มที่คิดว่าอาจจะยังมีประโยชน์ในอนาคตเก็บไว้แทน
แม้ว่าแนวทางบางอย่างอาจเกินเลยไปบ้างสำหรับปุถุชนธรรมดาอย่างเรา แต่โดยสรุปแล้วผมก็ได้แรงบันดาลใจ และกำจัดข้าวของที่รกรุงรังออกไปจากชีวิตได้เยอะมากเหมือนกันครับ ดังนั้นแนะนำครับสำหรับหนังสือเล่มนี้ ชีวิตอาจไม่ดีขึ้นทุกด้านเหมือนชื่อหนังสือ แต่อย่างน้อยก็น่าจะดีขึ้นซักด้านนะครับ