Hacksaw Ridge: วีรบุรุษสมรภูมิปาฏิหาริย์

Hacksaw Ridge วีรบุรุษสมรภูมิเหนือปาฏิหาริย์



หนังของผู้กำกับเมล กิ๊บสัน มักมีประเด็นแฝงของศาสนา ความเชื่อ ศรัทธาที่แรงกล้าของตัวละครนำเสมอ หลายครั้งก็ถูกแสดงให้เห็นถึงภาพความรุนแรงที่โหดทารุณ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ซึ่งมีส่วนช่วยให้เนื้อเรื่องมันน่าติดตาม และเอาใจช่วย รู้สึกอินไปกับตัวละครที่แน่วแน่กับความเชื่อของตัวเองที่ว่าจะไม่ฆ่าใครเด็ดขาด จนเมื่อ 1 ชั่วโมงแรกของหนังผ่านไปเริ่มเข้าฉากสงครามรบรากัน ภาพที่โหดเหี้ยม สมจริงและทรหดก็ถูกประเคนใส่เข้ามาอย่างไม่ลดละ ก็ราวกับจะให้พระเอกและคนดูได้เห็นว่าความจริงมันโหดร้ายกันแค่ไหน



ถ้านับเอาหนังสงครามที่สร้างมาจากเรื่องจริง มีเนื้อเรื่องที่หนักแน่น ประเด็นตั้งคำถามกับคนดูดารานักแสดงดังร่วมจอ งานสร้างไม่ขี้ริ้วขี้เหร่ ความสนุกครบครัน ฉากรบสมจริง ระเบิดภูเขาเผากระท่อม ฉากแอ๊คชั่นมันส์ๆ ตบท้ายด้วยดราม่าที่จะตราตรึง สะเทือนใจคนดู ยกย่องเชิดชูวีรบุรุษเดนตาย นี่แหละครับคือสิ่งที่ Hacksaw ridge มีบรรจุอยู่ไว้ในหนัง ....หนังทำได้ถึงทุกองค์ประกอบจริงๆ ครับ การแสดงของแอนดรูว การ์ฟีลด์ ก็ทำได้เยี่ยมจริง คือมาไกลจากบทสไปดี้มากครับ บทดราม่าก็ทำได้เยี่ยม น่าเอาใจช่วย เสียดายที่ปีนี้ที่ยังไม่ได้รางวัลนำชายกับเขาสักที และดาราดังคนอื่นๆ อย่าง แซม เวอร์ธิงตัน, ฮิวโก้ ฮีฟวิ่ง, วินซ์ วอห์น ก็มีส่วนทำให้หนังน่าลุ้นน่าติดตาม

สิ่งที่บ้าคลั่งและจริงๆ ในหนังนี้ก็คงเป็นฉากการรบของทหารฝั่งอเมริกากับญี่ปุ่นครับ ไม่ประนีประนอมจริงๆ แขนขาด ขาขาดกระเด็น ระเบิดร่างแหลกขาดครึ่ง คือรุนแรงสมจริงแบบฉบับป๋าเมลเลยครับ ...ถือว่าเป็นอีกงานที่ครบครันความเป็นหนังสงครามชั้นดีอีกเรื่องครับ

8/10
เนติพงษ์ สิงหะ

​

หนังรางวัลเริ่มพาเหรดกันเข้าโรงแล้วค่ะ อย่างอาทิตย์นี้ก็มีตั้ง 3 เรื่องเข้าชนพร้อมกันทีเดียว Hacksaw Ridge ก็เป็นอีกเรื่องที่ได้ชิงทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมอย่าง Andrew Garfield ที่เราหลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีจากบทไอ้แมงมุมจาก The Amazing Spiderman ทั้งสองภาค หลังจากผ่านไปสิบปีเมล กิบสันก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับหนังสงครามหลังจากที่สิบปีที่แล้วกำกับ Apocalypto ที่เราเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้

เรื่องนี้ฉากหลังคือสงครามโลกครั้งที่สอง และอย่างที่เราๆรู้กันดีว่าต้องส่งทหารไปสู้รบ อเมริกาก็เป็นอีกประเทศที่เข้าร่วมสงครามอย่างดุเดือดเหมือนกัน คนในชาติตอนนั้นก็มีเลือดรักชาติพร้อมจะสู้รบอย่างแรง ตัวเอกของเราก็เป็นอีกคนที่อยากรับใช้ชาติ เขาปฏิเสธการเกณฑ์ทหารและไม่ต้องไปรบเพราะทำงานอยู่ในกองทัพ แต่ด้วยความที่ฝันอยากเป็นหมออยู่แล้วบวกกับความรักชาติทำให้เขาตัดสินใจสมัครเข้ากองทัพเพื่อไปเป็นแพทย์สนาม

ที่ศูนย์ฝึกเขากลับถูกเพื่อนรังเกียจ เพราะการที่เขาไม่ยอมแตะปืนทำให้หน่วยของเขาโดนเล่นงานเป็นพิเศษ ทุกคนต่างก็อยากให้เขาออกแต่เขาก็ยังคงยึดมั่นอุดมการณ์ที่จะได้เข้าไปช่วยเหลือคนในสงคราม จนสุดท้ายก็ได้พ่อที่เป็นทหารสงครามโลกครั้งที่ 1 ช่วยไม่ต้องให้เขาติดคุกและไปร่วมในสงครามได้ จนสุดท้ายวีรกรรมของเขาในสนามรบก็เป็นที่ยกย่องของคนทุกคนในที่สุด

​

เราคิดว่าเมล กิบสันค่อนข้างมี passion และ faith ต่อความเชื่ออย่างมาก อย่างหนังเรื่องก่อนหน้าของเขาอย่าง Brave heart หรือ The Passion of the Christ ที่เรายังไม่ได้ชม หรือ Apocalypto และ Hacksaw Ridge ที่เราเพิ่งได้ชมไปทำให้เราได้เห็นความเชื่ออย่างแรงกล้าของตัวละครหลัก อย่างตัวละครหลักในApocalypto ที่มีความเชื่อมั่นในแบบของเขา ในชนเผ่าของเขา ในวิถีชีวิตของเขา หรืออย่าง Hacksaw Ridge ที่มุ่งไปทางศาสนาคริสต์ และความเชื่อที่ตัวเอกศรัทธาและอุทิศวิถีชีวิตให้กับความคิดนั้น นั่นจึงเป็นเหตุทำให้เขาไม่ยอมจับปืนเด็ดขาด

เรื่องนี้มีฉากสงครามเต็มอิ่ม 1 ชั่วโมงเต็ม พอเรารู้ว่ามันกำลังจะเริ่มสงครามกันแล้วนะ เราก็แทบจะไม่ได้มีเวลาหายใจอีกต่อไป ด้วยฉากที่ดูสมจริงและศพ แผลบาดเจ็บที่ทำได้สุดยอดตามสไตล์เมล กิบสัน เราบอกได้เลยว่ามันสวยมากจริงๆ ทั้งขาขาด ไส้ไหล ยิงหัวทะลุ คือทำได้สมจริงและสวยงาม แต่ก็ต้องเตือนไว้ก่อนว่าใครทนภาพแหวะไม่ได้ก็ทำใจหรือไม่ก็อย่าดูดีกว่าเพราะมันสมจริงมากเหลือเกิน

พอเริ่มเข้าฉากช่วยเหลือในช่วงหลัง ช่วงที่ตัวเอกตั้งคำถามว่าเขามาที่นี่ทำไม เหตุผลคืออะไร และสุดท้ายก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่เขาควรทำคือช่วยเหลือผู้ที่รอดชีวิต เขาจึงกลายเป็นคนเดียวที่กลับเข้าไปในดงควัน ควาญหาคนรอดให้ได้มากที่สุด และนำลงมาจากผาเพื่อนำไปรักษาตัว ฉากทำได้ตื่นเต้น น่าติดตามและลุ้นไปกับตัวเอก รวมทั้งบทพูดที่แฝงนัยยะความคิดให้เราได้รับรู้ รวมถึงความพยายามทั้งแรงกาย และการคิดวิถีทางเอาตัวรอด หนังทำให้เราเชื่อได้จริงๆ

​

สุดท้ายเราอยากชมการแสดงของแอนดริว คือเราเห็นตั้งแต่ตัวอย่างแล้วว่าการพูดแบบนั้นไม่ใช่แบบที่คนปกติทำ เลยรู้ทันทีว่าเขาศึกษาวิธีพูดของตัวจริง เหมือนที่นาตาลีเคยทำไว้ใน Jackie ยิ่งตอนสุดท้ายที่หนังขึ้นบทพูดเล่าเรื่องราวของตัวจริงยิ่งทำให้เรารู้เลยว่าแอนดริวทำไว้ดีจริงๆ เมื่อไหร่จะดังจริงๆซะทีว้าาาา สรุปเรื่องนี้คู่ควรที่จะดู มันเป็นหนังที่แฝงศรัทธาอันแรงกล้าเอาไว้ แฝงไว้กับหนังสงครามที่ทำได้ดีในทุกๆด้าน