1. นี่มันเว็บอะไรกัน??? ทำความรู้จักคร่าวๆกับ รีวิวบุรี คลิกเลย

เบลด รันเนอร์ 2049 | Blade Runner 2049

คะแนนเฉลี่ย:
5/5,
คำบรรยาย:
สามสิบปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก เบลดรันเนอร์คนใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเค (ไรอัน กอสลิ่ง) จากกรมตำรวจแอลเอ ได้เปิดเผยความลับที่ซ่อนไว้มานาน ที่สามารถจะทำให้ความเป็นสังคมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ตกอยู่ในความโกลาหลได้ การค้นพบของเคได้นำเขาไปสู่การผจญภัยเพื่อตามหาริค เด็คคาร์ด อดีตเบลดรันเนอร์จากกรมตำรวจแอลเอ ผู้หายตัวไปกว่าสามทศวรรษ

แบ่งปันหน้านี้

คุณล่ะ? ให้กี่ดาว เลือกเลย ➜:
/5,
  1. trebeilnahoj
    ให้คะแนน:
    5/5,
    (สุดยอด)
    [​IMG]
    ก่อนอื่นต้องพูดก่อนเลยว่าเป็นหนังที่เรารออีกเรื่องค่ะ ไม่ใช่เรื่องที่รอที่สุด ไม่ได้คาดหวังมาก แต่ตัวเราชอบงานของเดอนีอยู่แล้ว รู้ตัวอีกทีหนังที่เลือกดูเพราะน่าสนใจก็เป็นหนังเขาไปซะหมด5555 ปีนี้เลยดูหนังเดอนีเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 4 แล้วค่ะ หนังค่อนข้างเป็นกระแสทีเดียว ด้วยความที่ไม่ชนกับฟอร์มยักษ์เรื่องอื่นด้วย คนเลยให้ความสนใจเพราะคิดว่าเป็นหนังตลาดหรือแอ็คชั่น ส่วนอีกกลุ่มที่ให้ความสนใจคือขอหนังไซไฟที่เคยดูภาคแรกมาแล้ว เพราะภาคแรกนี่โคตรปรัชญาไซไฟ เราชอบมากๆ เพราะงั้นบอกตั้งแต่ตอนนี้เลยแล้วกัน ว่าใครที่คิดจะไปดูหนังเรื่องนี้เพราะคิดว่าไซไฟแอ็คชั่นเพียวๆนี่อย่าเลยค่ะ ผิดหวังแน่นอน หนังมันไม่ใช่อย่างนั้นคะ มันค่อนข้างไปทางปรัชญาสืบสวนมากกว่า มันไม่ได้มีฉากต่อสู้เยอะ และโลกในอนาคตก็ไม่ได้ล้ำขนาดเป็นหนังวิทยาศาสตร์ขนาดนั้น

    หนังมีความยาวมาก ซึ่งเราก็เห็นหลายๆคนพูดแล้วล่ะว่าเนือย น่าเบื่อ อืดไป แต่เราก็คิดว่าเรามีภูมิต้านทานระดับนึงจากการดู 2001: A Space Odyssey มาแล้ว555 เราก็เตรียมความพร้อมด้วยการไปดูภาคแรกมาก่อน เพราะเขาบอกเลยว่า you must watch ซึ่งก็เป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดเพราะว่าทั้งเรื่องมันเกี่ยวกับภาคแรกหมดเลยนี่โว้ยเดอนี๊ ละมาบอกว่าไม่ต้องดูก็ได้คืออัลไล๊5555 แนะนำนะคะ ดูก่อนเถอะค่ะภาคแรกน่ะ อารมณ์มันต่อยอดกันจริงๆ หลายฉากมันเกี่ยวข้องกัน แล้วถ้าดูภาคแรกมาก่อน อารมณ์มันจะอินกว่าเยอะมากๆ

    มาพูดถึงนักแสดง อันนี้เราดูจบสองสามชั่วโมงแล้วเพิ่งมาเขียน ตอนดูก็เฉยๆนะ แต่พอดูจบแล้วมานั่งไปเรื่อยๆ เออ เรารักตัวละครเรื่องนี้ว่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ถ้าถามว่ารักเท่าภาคแรกไหมก็ไม่ คือภาคแรกคือดูรักเลย ละชอบ คือดึงดูด แต่ภาคนี้ตัวละครมีความ distinctive คาแรคเตอร์ไม่ได้เด่น แต่ก็แตกต่าง คือพอดูจบ อีกสองสามปีก็น่าจะยังจำได้ว่าตัวละครนี้นิสัยยังไง แต่ไรอันกับแฮริสันก็ไม่ได้ทำให้เรารักขึ้นแต่อย่างใด รู้สึกเป็นตัวเดินเรื่องมากกว่าตัวเด่น กลายเป็นว่าตัวที่สำคัญที่สุดในเรื่องคือเรเชล ทั้งสองภาคเลย มี impact กับทุกสิ่งอย่างจริงๆ นักแสดงในภาคนี้เล่นดี กลมกลืนไปกับเรื่องดี แล้วเลิฟไม่ใช่ตัวร้ายแบบดูโง่ๆ หรือใช้พลัง หรือให้ความรู้สึกลาสต์บอสในเกม แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปเหมือนกัน ทั้งๆที่คาแรคเตอร์แนวนี้มีเยอะแล้ว แต่กลับไม่รู้สึกเบื่อหรือรำคาญแต่อย่างใด เดฟ บาทิสต้าที่โผล่มาตอนแรกแป๊ปเดียว แต่คือแบบ ดึงอารมณ์ภาคแรกกลับมาให้เราหมดเลย แววตาเขาเศร้ามากอ่ะ คือทำไมไม่รู้ อาจจะเพราะภาพ ฉากด้วย แต่ช่วงแรกคือแบบ ตายอ่ะ ช้ำใจตายคาโรงอ่ะ เหมือนฝนตกฟ้ามืดทั้งๆที่ไม่ นักแสดงเรื่องนี้ดีจริง

    [​IMG]
    ขอพูดถึงตัวบทต่อ บทไม่ได้มีอะไรมาก ไม่ซับซ้อน เอาจริงๆป่ะ เราเหมือนกำลังเล่นเกมอ่ะ เคลียร์เควสต์ สู้ ได้ไอเท็ม ได้หลักฐาน ละก็ไปด่านต่อไปไรงี้ คือบทไม่ได้เข้ม ไม่ได้ซับซ้อนเลย แต่มันต่อยอดจากภาคที่แล้วล้วนๆ ภาคที่แล้วสำหรับเราพูดถึงความเป็นมนุษย์ ส่วนภาคนี้คือการพูดถึงตัวตน(มิลาน คุนเดอราไปอี๊ก) ซึ่งเดินโดยตัวหลักๆเลยคือเคที่แสดงโดยไรอันนี่แหละ ที่เป็นตัวที่แสดงถึงแก่นหนังเลยว่าที่จริงแล้วมันต้องการพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่ บทไม่มีอะไรมากเลย เรียบง่าย แต่แก่นสาร และสิ่งที่พบเจอระหว่างเรื่องนั่นแหละ บางไดอะล็อคบางบทพูดที่เราตายไปเลยอ่ะ แบบช้ำใจอีกแล้ว เราเป็นพวกชอบเรื่องเกี่ยวกับชีวิตไง555 เลยเหมือนว่าในที่สุดก็ได้คุยกับหนังที่คิดอะไรแนวนี้เหมือนกันสักที

    มาถึงภาพ ภาพคือโคตรพ่อโคตรแม่เทพ เรารู้อยู่แล้วแหละว่าลุงโรเจอร์แกเทพ แล้วก็คาดหวังไว้อยู่แล้ว ซึ่งสิ่งที่ได้มาก็ไม่ผิดหวังเลย เพราะภาพทุกชอร์ตที่เราได้มามันคือเพอร์เฟ็กชอร์ตโดยสมบูรณ์ ภาพลุงแกมันแสดงอารมณ์ได้ดีอ่ะ และการเล่นกับสี แสง องค์ประกอบในภาพคือมันดีอ่ะ คือแค่เข้าไปในโรงไปเสพย์งานศิลป์ก็คุ้มแล้ว โคตรสวยงาม ต่อมาเพลงประกอบ เราชอบลุงฮานส์จาก Interstellar นะ แต่ก็ยอมรับว่าอยากได้ยินซาวด์ประกอบในเวอร์ของโยฮันเหมือนกัน คือจาก Arrival คือมันคว้างงงง แว้วววว ไม่รู้พูดไม่ถูกแต่ชอบ555 แต่พอลุงฮานส์มาเรื่องนี้บางฉากก็ไม่รู้ใส่มาทำไมนะ แต่บางฉากคือใส่มาแล้วอิมแพคมาก ดึงเราร่วมกับหนังไปอีก คือดีมาก

    สรุป ไม่ใช่หนังแอ็คชั่น นี่หนังปรัชญา ไม่ได้เห็นโลกล้ำๆ แต่จะได้เห็นงานภาพที่เทพมากกว่า อย่าเข้าไปดูเพราะอยากดูฉากต่อสู้ แต่ให้เข้าไปดูเพราะอยากได้เนื้อหาปรัชญาไซไฟ หนังเอื่อย สำหรับเราไม่น่าเบื่อ แต่น่าเบื่อกว่าภาคแรกนะ แต่งานภาพช่วยไว้โขจริงๆ สุดท้ายถ้าจะไปดูดูภาคแรกไปก่อนซะ อารมณ์แม่งต่อกันมากๆ ไม่อยากให้พลาด รู้สึกดูจบแล้วก็ยังมีอะไรหลายอย่างตกค้างไว้ ดีจริง
  2. เนติพงษ์ สิงหะ
    ให้คะแนน:
    5/5,
    (สุดยอด)
    "ที่สุดหนังภาคต่อไซ-ไฟ ปรัชญา ของปี 2017"
    ข้อเด่น - ภาพสวยมาก เท่ห์ทุกซีน ถูกออกแบบมาแล้วอย่างดีในหนัง ดนตรีประกอบภาพยนตร์ก็เฉียบขาด สะกดคนดูได้อยู่หมัด
    ข้อด้อย - หนังเนิบช้า ไม่กระฉับกระเฉง อาจสร้างความเบื่อหน่าย ง่วงหาวได้สำหรับคนดูทั่วไป
    [​IMG]

    งานภาคต่อจากต้นฉบับปี 1982 ของผู้กำกับริดลี่ย์ สก็อตต์ ...ซึ่งถ้าถามว่าควรดูภาคนี้มาก่อนหรือไม่ ตามจริงผมก็อยากแนะนำให้ไปดูภาคต้นมาก่อนนะครับ เพราะจะช่วยให้เข้าใจซับพล็อตของหนังได้ในระดับหนึ่ง เข้าใจฉากๆ นั้นได้ดีกว่า จะคุ้นเคยที่มาที่ไปของตัวละครตัวนี้ เกี่ยวพันธ์ยังไง แล้วจะร้องอ๋อเมื่อมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งปรากฏขึ้น ...แต่ถ้าไม่ดูมาก็ยังเข้าใจดีอยู่ครับ เพียงแต่ใจความสำคัญของหนังเรื่องนี้ หลักๆ สำหรับผู้ชมทั่วไปก็คือ ต้องมีสมาธิกับหนังพอและเตรียมร่างกายมาพอในระดับนึงครับ เพราะถ้าดูในระหว่างที่เหนื่อย นอนไม่อิ่ม อาจจะเคลิ้มๆ หลับได้นะครับ


    เบลด รันเนอร์ ภาคแรกเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว งานต้นฉบับขึ้นหิ้งไปแล้วเรื่องของปรัชญาไซ-ไฟ โลกอนาคตที่เสื่อมโทรม และภาพวิชวลที่ตะลึงตาในยุคนั้น ผู้กำกับเดนนิส วิลล์เนิฟ (ที่กราฟกำลังขึ้นโด่งจากการทำหนังชั้นเยี่ยมติดต่อกันมาโดยตลอด) ยังคงสานต่อความเยี่ยมจากต้นฉบับได้ดี ทั้งการเป็นหนังไซ-ไฟ ปรัชญาในแบบล้ำลึกแต่ดูง่ายขึ้นและกระฉับกระเฉงขึ้นจากต้นฉบับขึ้นมา (อีกหน่อยนึง) และงานด้านวิชวลเอฟเฟ็กต เทคนิค วิสัยทัศน์การสร้างโลกอนาคตที่เสื่อมโทรม ยังคงน่าตึง ตราตรึงและยังคงยอดเยี่ยมไม่แพ้ภาคแรก ดนตรีประกอบก็เจ๋ง ได้กลิ่นอายจากภาคแรกไปเต็มๆ บางฉากบางซีน ยังคารวะงานต้นฉบับอย่างเห็นได้ชัด

    [​IMG]

    สำหรับผมแล้ว งานนี้คนดูสามารถติดตามไปกับหนังได้ครับ สามารถเข้าใจกับหนังได้ แม้จะมีความยาว 160 นาทีกว่าๆ บวกกับเนื้อหาของหนังที่ไม่ได้เน้นไปทางแอ๊คชั่น ระเบิดระเบ้อ เน้นการดำเนินเรื่องแบบตามหาตัวละคร เนิบช้า ไม่กระฉับกระเฉงแบบหนังไซ-ไฟดาดๆ ทั่วไป ค่อยเป็นค่อยไป (ซึ่งผมเองก็เกือบเคลิ้มหลับไปช่วงกลางเรื่อง แต่ยังสามารถดึงสติกลับมาดูต่อได้อย่างไม่ปัญหา ฮา!) ซึ่งหลายคนที่ชอบหนังเรื่องนี้ในสื่อออนไลน์ แนะนำมาครับว่า ควรดูมากกว่า 2 รอบถึงจะสนุกมากขึ้น ...อย่างที่กล่าวไปข้างต้นครับ ถ้ามีสมาธิกับหนังพอ รับรองน่าจะสนุกกับหนังแน่ๆ

    [​IMG]

    สำหรับผมแล้ว คนดูทั่วไปที่หวังมาดูหนังมันส์ๆ แอ๊คชั่นหรือแม้แต่ความเป็นตลาดดูง่าย เบลด รันเนอร์ 2049 ...อาจจะยังไม่แนะนำ แต่ถ้าคุณเป็นแฟนหนังเรื่องนี้และเป็นแฟนไซ-ไฟ ปรัชญาลก็ขอแนะนำให้ไปดูเลยครับ โทนจริงจังน่าติดตาม งานด้านภาพเท่ห์ระเบิดมาก ได้อารมณ์ความเป็นโลกอนาคต คือหนังออกแบบมาสวยงามแทบจะทุกซีน ...เป็นอีกจุดเด่นของหนังที่ตรึงผู้ชมไว้ตลอดเรื่อง

    8.5/10
    เนติพงษ์ สิงหะ
คุณล่ะ? ให้กี่ดาว เลือกเลย ➜:
/5,

แบ่งปันหน้านี้